XAUUSD การวิเคราะห์ประจำวัน 25/10/2022 by TraderTanXAUUSD / GOLD ข้อมูลข่าวสาร:
ทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ (24 ต.ค.) โดยตลาดถูกกดดันจากการพุ่งขึ้น
ของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ
ของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3
แนวรับ 1641
แนวรับ 1621
แนวรับ 1615
แนวต้าน 1660
แนวต้าน 1675
แนวต้าน 1684
ความคิดเห็นในเชิงเทคนิค
RSI
-เป็นกลางในขาขึ้น
Trendline
จากกราฟ ราคาเริ่มทำสัญญาณการกลับตัวขึ้น จากกรอบTF ใหญ่ซึ่งทำให้ขาขึ้น
กลับมามีลุ้นอีกครั้ง โดยมีกรอบไซด์เวย์เริ่มขยายกว้างมากขึ้นจากกรอบราคาเดิม
แนะนำให้เล่นตามกรอบเส้นเทรนไลน์และกรอบไซด์เวย์กว้าง โดยยึดกรอบไซด์เวย์
เดิมเป็นหลักไปก่อน เน้นเก็บกำไรระยะสั้นๆ และให้รอสัญญาณการเลือกทางที่ชัดเจน
เพื่อเข้าออกตามแนวรับแนวต้าน
กลยุทธิ์วันนี้ เล่นตามแนวรับแนวต้านและกรอบเส้นเทรนไลน์
ทางเลือกในการลงทุน
1.หากราคามีสัญญาณกลับตัวบริเวณ 1641 เข้าซื้อ(buy ) เป้าหมายกำไรอยู่ที่ราคา 1660 หรือตามแนวรับต้าน
2.หากราคามีสัญญาณกลับตัวบริเวณ 1641 เข้าขาย(sell ) เป้าหมายกำไรอยู่ที่ราคา 1621 หรือตามแนวรับต้าน
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
ไอเดียชุมชน
US30 Analysis for 25-Oct-2022
FX:US30
สถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปมากพอสมควรเมื่อเทียบจากสัปดาห์ก่อน เพราะเมื่อราคา pull-back ลงไปสู่ HVN 31402.60 ปรากฏว่าเราเจอ stonger buyers กลับเข้ามา active เอาราคา breakout ออกจาก 3 day balance area ซึ่งเมื่อวานพอราคากลับลงมาเทส balance breakout area เราก็เห็น buyers กลับเข้ามา defense อีกครั้ง
เพราะฉะนั้น short-term bias = Neutral-Bullish และ Weekly ตอนนี้กลายเป็น One time framing up แล้ว
ตราบใดที่ราคายัง hold อยู่เหนือ balance breakout area (Initial Support) = buyers control market มีโอกาสสูงที่ราคาจะ expand ขึ้นไปได้อีก โดย Resistance Zone ด่านสำคัญรออยู่ที่ 32621.47-32701.88 ส่วนจะขึ้นไปถึงที่นั่นได้หรือคงต้องมีวันต่อวัน
แต่ขณะที่ตราบใดที่ราคา hold อยู่เหนือ Initial Support การ short มีความเสี่ยงมากกว่าการเทรด long side
📹 กดดู Video 👇 ที่ Logo Youtube ด้านล่าง จะทำให้เข้าใจ Market Context ได้ดีขึ้นครับ
Short-term: NEUTRAL-BULLISH ▲
Ends: 30879.45
WEEKLY: ONE TIME FRAMING UP ▲
Ends: 30879.45
[แกะหุ้นเด้ง]ดู COSTCO หุ้น 100 เด้ง ผ่าน CANSLIM และ VCP pt.1แก่นแท้จากหุ้นเด้งตัวนี้
-การย่อระดับ 1x% เป็นเรื่องที่ธรรมชาติมากๆ นับเป็นเรื่องที่ปกติ
การย่อลงมาแบบหลักๆ อยู่ที่ราว 3x%
-จุดซื้อที่ทรงประสิทธิภาพจะมาจากจุดที่แข็งกว่าตลาด
หรือ Relative Strength มากกว่า 0
-การย่อลงต่อละครั้งหากไม่หลุดราคาเฉลี่ยนับว่าสามารถรันเทรนด์ต่อได้
-การที่ราคาหุ้นตกหนักๆ โดยหลัก มี 3 ปัจจัย (ซึ่งการตกนี้ไม่ต่ำกว่า 50%)
1. การลงจากเศรษฐกิจเอง เช่น COVID-19 , Subprime
2. การลงจากอุตสาหกรรม เช่น รอบสินค้าโภคภัณฑ์ , การออกกฎบัตรบางอย่างจากภาครัฐที่ทำให้ราคาไม่ไปไหน
3. การลงจากตัวบริษัทเอง เช่น ความสามารถในการแข่งขัน ปราการและคูคลองเริ่มเสื่อมสลาย (แบบนี้อันตรายที่สุด)
.
-การลงจากตัวเศรษฐกิจ หากบริษัทแข็งแกร่งจากการมีปราการและคูคลองแข็งแกร่ง ตลาดย่อมรับรู้ อย่างน้อยก็จากผลประกอบการที่หากไม่ลดลง และรายงานจากฝ่ายบริหารแจ้งออกมาไม่มีรอยฟกช้ำจากเศรษฐกิจ นายตลาดก็ตอบรับอย่างสดใส
-การลงจากอุตสาหกรรม ราคาหุ้นอาจจะไม่ขึ้นมาในทันที อาจต้องให้เวลากับเขา ในการปรับทัพรวมพลสู้ศึก ในเชิงรูปธรรม อาจขยายตลาดไปที่อื่น, คุยกับ Supplier เพื่อปรับราคาให้มี Margin ที่ดีขึ้น และคงคุณภาพสินค้า
หรือในกรณีที่สดใสที่สุด คือรอเมฆหมอกแห่งความโชคร้ายให้ผ่านไปเลย
-การลงจากตัวบริษัทเอง ยากที่สุดในการพิจารณา ต้องติดตามกระบวนการบริหารบริษัทอย่างใกล้ชิด รวมถึงดูคุณภาพในสินค้าและบริการ
แก่นแท้คือดูว่า Core Value ที่เขมอบให้แก่ลูกค้าและสังคม
กับการทำกำไร ยังพอไปทางเดียวกันได้ไหม
-สิ่งที่ต้องการสื่อคือหุ้นหลายเด้งมักมีการลงแรงๆ เสมอ ไม่ว่าจากตัวเขาเอง ตัวอุตสาหกรรม หรือจากเศรษฐกิจ แก่นแท้คือการถือให้ยาวและมองให้ขาดว่าบริษัทจะผ่านไปได้ไหม เป็นสำคัญ
-การฟอร์มตัวแบบ Cup with Handle จากที่ดูมักใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 30 bars week หรือราว 200 วัน ก่อนพุ่งขึ้นไป
การรันเทรนด์เพื่อให้ได้กำไรเด้ง อาจต้องอาศัยเวลา
เราควรมีหลังบ้านที่แข็งแกร่ง มีรายได้หลายทางเพียงพอที่จะคลายกังวลกับการลงทุนในบริษัทนี้ได้
เราอาจใช้อรรถประโยชน์จาก Stock Option ช่วยได้ หากหุ้นนั้นมีบริการ Short Call หรือ Short Put เพื่อหากระแสเงินสดจากช่วง Sideway หากินกับ Volatile
(อาจจะซับซ้อน แต่เป็นอีกหนึ่งทางเลือกได้นะครับ)
-จุดกลับตัวของกราฟ บางทีอาจใช้รูปแบบแท่งเทียนพิจารณาได้
เช่นรูปแบบ Hammer ที่ทำหางยาวมาก เสมือนการปฏิเสธการลงของราคา
-จุดกลับตัวอาจใช้ Relative Strength ช่วยได้
หากราคาหุ้นแข็งกว่าตลาด เราอาจเริ่มกลับมามองหุ้นนี้ได้ครับ
@Kunnaphatz รูปแบบ Flat ประเภทต่างๆFlat = 3-3-5
1. Normal B มี 3 ประเภท คือ
1.1 Common Flat
1.2 Elongated Flat
1.3 C-Failure Flat
.
2. Strong B มี 3 ประเภทคือ
2.1 Irregular Flat
2.2 Irregular Failure Flat
2.3 Running Flat
.
3. Weak B มี 3 ประเภท คือ
3.1 B-Failure C=A
3.2 B-Failure C>A
3.3 Double Failure
GBPJPY วันที่ 20 Oct 2022 - Northanos FXGBPJPY วันที่ 20 Oct 2022 รายละเอียดการวิเคราะห์สามารถดูได้ที่คลิปเลยนะครับ
ปล. นี่เป็นเพียงบทวิเคราะห์เพื่อเป็นกรณีศึกษาเท่านั้น
ไม่ได้มีเจตนาเป็นการบอก Signal แต่อย่างใด ดังนั้นผมจะไม่มีการ
รับผิดชอบแต่อย่างใด สำหรับกำไรที่จะได้รับ หรือความเสียหายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
GOLD (XAUUSD) 20/10/2022ทองคำวันนี้แนะนำเทรดฝั่ง BUY ครับ
ถึงแม้กราฟในหลายไทม์เฟรมจะอยู่ในเทรนด์ขาลง แต่ราคาปัจจุบันได้ลงมาบริเวณ Demand Zone ในไทม์เฟรม H4 จึงทำให้วันนี้มองว่าทองคำมีโอกาสกลับตัวขึ้นไปอย่างน้อยบริเวณเส้นเทรนด์ไลน์ด้านบน
ดังนั้นวันนี้แนะนำหาโอกาสเทรดฝั่ง BUY จะได้เปรียบกว่าครับ
Today's gold recommends trading on the BUY side.
Although many timeframe charts are in a downtrend. But the current price has come down in the Demand Zone area in the H4 timeframe, so today we see that gold has a chance to reverse at least around the top trendline.
Therefore, today I recommend you to find an opportunity to trade on the BUY side to have an advantage.
BTCUSD : ระวัง! เตรียมเลือกทางเร็วๆ นี้ ลองดูจากปี 2018 ได้..เอาพฤติกรรมราคาของ Bitcoin ในปี 2018 มาให้ลองศึกษากันครับ
โดยปี 2018 คือตลาดหมีที่โหดร้ายยิ่งกว่าตอนนี้เยอะ โดยเฉพาะหลังจากวันที่มันถล่มหลุด 6k แล้วลงไปถึง 3k .. ณ ตอนนั้น ตลาดสิ้นหวังกันถึงขีดสุดครับ ผมเองก็สิ้นหวังเหมือนกัน แถมขาดทุนยับๆ ด้วย
มาลองเทียบกันดูนะครับ
#June
- 2018 ราคาลงมาย่ำ bottom 6k เอาจริงๆ ก็ตั้งแต่ ก.พ. 2018 นะ แต่ การลงมาย่ำแล้วอยู่แถวนี้เลยก็คือตอน ช่วงหลังเดือน June 2018 เป็นต้นมา
- 2022 ซึ่งก็คล้ายกันกับในปีนี้ นั่นก็คือ ราคาหลุดแนวรับ 30k ลงมา แล้วไหลยาวลงมาถึง 17700 แล้วเด้งกลับ หลังจากนั้นก็มีการย่ำทดสอบแนวรับโซนนี้หลายครั้งมากเช่นกัน
#July-#Sep
- 2018 ในสองเดือนนี้ จะเห็นได้ว่า หลังจากนั้น ราคามีการเด้งกลับแรง แล้วก็ลงมาย่ำฐานอีกรอบ แล้วหลังจากนั้นก็เด้งใหม่อีกที
- 2022 ซึ่ง ถ้าเทียบกันกับในปีนี้ก็วิ่งเหมือนกันอีก โดยแต่ละรอบก็คือการประกาศเลข CPI นั่นเองครับ ( ตอน 2018 ผมยังไม่ได้ดูข้อมูลหลายด้าน ก็เลยไม่เข้าใจว่าทำไมมันถึงเด้ง )
#Oct
- 2018 เดือนนี้เป็นเดือนที่ตลาดออกข้างกันไปนิ่งๆ แทบจะที่สุด แต่ระหว่างทางก็มีการ "สะบัด" ขึ้นลง แรงๆ อยู่เรื่อยๆ เช่นกันครับ โดยช่วงนี้ ณ ตอนนั้น ผมจำได้ว่า ผมยังคึกๆ จะเทรดอยู่ และใช้ leverage หนักมาก เพราะราคามันแกว่งน้อย ก็เลยต้องอัดหนัก เพื่อที่จะได้กำไรไวๆ
- 2022 เดือนนี้ตลาดก็ออกข้างไปนิ่งๆ ไม่มีทะลุกรอบบนล่างของ ATR เลยเช่นกัน คล้ายกับปี 2018 และ หลายๆ คนที่ไปพยายามเล่นช่วงนี้ก็จะเจอ whipsaw loss เมาหมัดกันไป เหมือนผมสมัยก่อนเด๊ะ 55
#Nov
- 2018 เดือนแห่งหายนะครับ ตอนนั้นทุกคนมองเหมือนกันหมดว่า "6k เอาอยู่ เพราะมันคือทุนขุด ไม่ลงไปต่ำกว่านี้หรอก" ผมก็เคยมองแบบนั้นนะ แต่พอมันหลุด มันก็หลุด และมันลงเละยับเลยด้วย ตอนนั้น sentiment ตลาดแย่มาก ทุกคนมองลงกันหมด ไม่มีใครมองขึ้นเลยแม้แต่คนเดียว ใครไปสวน รีบรับมีด ก็เละ ยับ สุดท้าย ถึงไปหยุดที่ 3200 ทำเอาหลายๆ คนหมดตัว
- 2022 รอดูว่ากราฟจะเฉลยมาอย่างไรนะครับ แต่ทรงออกข้าง นิ่งๆ แบบนี้ ผมบอกเลย ถ้ามันทะลุทางไหน คุณต้องหนีให้ทัน เพราะมันมีโอกาสสูงมากๆ ที่มันจะวิ่งไปต่อทางที่มันเลือกอีกไกลครับ ใครไปสวน ก็จะมาหมดตัวกันในจังหวะนี้แหละ
#ส่งท้าย
แวะมาฝากมุมมองกันไว้ จากคนที่เคยเจ๊งบ๊ง หมดตัว มาแล้ว 2018 มาเตือนด้วยความหวังดี ไม่ได้มีเจตนามาขัดลาภพวกท่านแต่อย่างใด เพียงแต่ไม่อยากให้ใครต้องมาหมดตัวเหมือนผมสมัยก่อนแค่นั้นเองครับ
XAUUSD การวิเคราะห์ประจำวัน 18/10/2022 by TraderTanXAUUSD / GOLD ข้อมูลข่าวสาร:
ทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ (17 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่า
ของดอลลาร์ และการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ
นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐยังเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์กรายงานว่า ดัชนี
ภาคการผลิต (Empire State Index) ร่วงลงสู่ระดับ -9.1 ในเดือนต.ค. ต่ำกว่าที่
นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ -5.0 จากระดับ -1.5 ในเดือนก.ย.
แนวรับ 1650
แนวรับ 1641
แนวรับ 1621
แนวต้าน 1660
แนวต้าน 1675
แนวต้าน 1684
ความคิดเห็นในเชิงเทคนิค
RSI
-เริ่มมีสัญญาณกลับตัวขึ้น อาจเป็นเพียงขาขึ้นระยะสั้นๆ
Trendline
จากกราฟ เทรนหลักยังคงเป็นขาลงอยู่ แต่ราคาเริ่มหลุดกรอบเส้นเทรนไลน์ขาลง
เพื่อกลับเข้าไปในกรอบโซนไซด์เวย์ ขาขึ้นเริ่มมีลุ้นในระยะสั้นๆ ให้รอสัญญาณการ
เลือกทางที่ชัดเจน เพื่อเข้าออกตามแนวรับแนวต้าน
กลยุทธิ์วันนี้ เล่นตามแนวรับแนวต้านและกรอบเส้นเทรนไลน์
ทางเลือกในการลงทุน
1.หากราคามีสัญญาณกลับตัวบริเวณ 1650 เข้าซื้อ(buy ) เป้าหมายกำไรอยู่ที่ราคา 1660 หรือตามแนวรับต้าน
2.หากราคามีสัญญาณกลับตัวบริเวณ 1649 เข้าขาย(sell ) เป้าหมายกำไรอยู่ที่ราคา 1641 หรือตามแนวรับต้าน
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
BTC เริ่มปรับตัวร่วงลงอีกครั้งสกุลเงินดิจิตอลรวมถึงบิทคอยน์มีการปรับตัวร่วงลงอย่างเห็นได้ชัดโดยที่การปรับตัวร่วงลงในครั้งนี้เกิดจากทางด้านของดัชนี Nasdaq มีการปรับตัวร่วงลงทางด้านของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี
ดังนั้นจากการกดดันที่มีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐที่มีโอกาสสูงที่จะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% นั้นเป็นแรงกดดันทำให้สกุลเงินดิจิตอลมีการปรับตัวร่วงลงเช่นเดียวกัน
ต้องติดตามว่าในการเปิดตลาดสหรัฐอเมริกาจะมีโอกาสฟื้นตัวขึ้นหรือไม่สำหรับฝั่งของหุ้นกลุ่มดิจิตอล
จับตากรอบแนวรับที่ 19,269 และ แนวรับที่สองก็คือ 18,971
ติดตามความเสี่ยงในวันนี้ว่าจะมีโอกาสปรับตัวอย่างไรโดยเฉพาะในช่วงของการเปิดตลาดสหรัฐอเมริกากว่านี้
การฝึกวิเคราะห์ เพื่อหาจุดเข้าซื้อให้แม่นยำยิ่งขึ้นการฝึกวิเคราะห์ เพื่อหาจุดเข้าซื้อให้แม่นยำยิ่งขึ้น
หลักการและเหตุผลอ้างอิง
-M W D1 H4 แนวโน้มขาลง แท่งเทียนปัจจุบันเป็นแท่งขา
(แท่งลง)
-H4 หารับต้านสำคัญที่ใกล้ที่สุด
-รอแท่งเทียนเฉลยว่าจะไปทิศทางไหน
-การบอกทิศทางจะต้อง เกิดแท่งปิดคาบเส้น และ
แท่งคอนเฟิร์มปิดสีเดียวกับแท่งปิด
-ตอนนี้ภาพรวมใหญ่มอง sell
ควรรอกราฟวิ่งชนต้านสำคัญที่ใกล้ที่สุดก่อนแล้วsell
ห้ามเทรดตามแท่งลงมาอาจมีสิทธิโดนลากได้
-จุดslควรเป็นจุดต้านสำคัญที่เราตีเอาไว้อย่างน้อย
เผื่อไปสักสามแนวต้าน
-จุด TP มีสองแบบคือจบเร็วก็เก็บกำไรน้อยกว่าsl
แต่จบเร็วกว่าไม่ต้องลุ้นนาน
-อีกแบบคือตั้งtpเท่ากับslหรือมากกว่าslไม่เกิน1.5เท่า
SHIBA/USDการวิเคราะห์ประจำวัน 9/10/2022 by TraderTanข่าวต่างประเทศ 📊
เจ้ามือช้อนซื้อเหรียญ Shiba Inu กว่า 100,000 ล้าน SHIB หลังจากที่มีการเปิดตัวเกม Shiba Eternity
เมื่อไม่นานมานี้ทาง Etherscan ได้ตรวจพบการทำธุรกรรมโดยได้มีการโอนย้ายเหรียญมีมอย่างเจ้า Shiba Inu (SHIB) ในจำนวนที่มากกว่า 100,000 ล้าน SHIB
โดยที่เจ้ามือรายนี้ได้ซื้อเหรียญ SHIB บนเว็บเทรด centralized และโอนเหรียญไปเก็บที่ wallet ส่วนตัวซึ่งเจ้ามือรายนี้ตัดสินใจเข้าซื้อ SHIB หลังจากที่ได้มีการเปิดตัวเกม Shiba Eternity ที่ทุกคนต่างให้การรอคอยกันมาเนิ่นนาน
🙏Cr. siamblockchain By Kasamsak Wongsanin
แนวรับแนวต้านที่สำคัญ ✅✅
0.00001219 แนวต้าน
0.00001165 แนวต้าน
0.00001084 แนวรับ
0.00001037 แนวรับ
ความคิดเห็นในเชิงเทคนิค 💬
💻RSI กำลังลงไปทดสอบแนว 30
หลังจากที่ราคาขึ้นมาทดสอบแนว 0.00001219 หลังจากนั้นราคาได้มีพักราคา sideway หากราคาสามารถเบรคแนว 0.00001084 ก็มีแนวโน้มที่ราคาจะลงต่อไปทดสอบแนวถัดไป 0.00001037 และแนว 0.0000996
ทางเลือกในการลงทุน 💭💭
รอให้ราคาเบรคแนว 0.00001084 ให้หาจังหวะในการเข้าขาย Sell 📉 บริเวณแนว 0.00001084 เก็บกำไรระยะสั่น บริเวณแนว 0.00001037 หรือแนว 0.0000996 ตั้ง Stoploss บริเวณแนว 0.00001133
❗นี้เป็นเพียงความคิดส่วนบุคคล อาจจะกำไรและขาดทุน ฉนั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
🙏“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
🙏 “กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
BTCUSD การวิเคราะห์ประจำวัน 5/10/2022 by TraderTanข่าวต่างประเทศ 📊
นักวิเคราะห์ชื่อดังฟันธง ! ตลาดหุ้นและ Bitcoin จะเผชิญวิกฤตครั้งใหญ่ในอีกไม่กี่สัปดาห์
นาย Alessio Rastani นักวิเคราะห์ คริปโตเคอเรนซี่ที่มีชื่อเสียงให้ ได้แบ่งปันมุมมองของเขาที่มีต่อ Crypto ตลาดหุ้น และตลาด Forex ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
โดยนาย Alessio Rastani ให้ความเห็นว่า ความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าจะประสบกับวิกฤตครั้งใหญ่ที่จะเป็นตัวกำหนดว่าตลาดจะถดถอยในระยะสั้นหรือระยะยาว
🙏Cr.siamblockchain By Sureeporn Detthongchan
แนวรับแนวต้านที่สำคัญ ✅✅
20618.32 แนวต้าน
20378.68 แนวต้าน
20051.56 แนวรับ
19872.06 แนวรับ
ความคิดเห็นในเชิงเทคนิค 💬
💻RSI หักหัวลง
ราคาได้มีแรงซื้อ และ ผลักดันราคาขึ้นไปทดสอบแนวกรอบพักราคา 20378.68 ซึ่งเป็นแนวที่นัยยะสำคัญ และมีสัญญาณในการกลับตัว นั้นทำให้ราคามีโอกาสลงทดสอบแนว 20000.00 และแนว 19872.06
ทางเลือกในการลงทุน 💭💭
ให้หาจังหวะในการเข้าขาย Sell 📉 บริเวณแนว 20378.68 เก็บกำไรระยะสั่น บริเวณแนว 200051.56หรือแนว 19872.06 ตั้ง Stoploss บริเวณแนว 20531.31
❗นี้เป็นเพียงความคิดส่วนบุคคล อาจจะกำไรและขาดทุน ฉนั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
🙏“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
🙏 “กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
เเผนเทรด GALAUSDT Sellบทวิเคราะห์ Cryptocurrency
คู่เงิน GALAUSDT Sell
TF : H4
-Trend Line
-Pattern
TF : H4 จุดเข้าซื้อ
- Sell 0.0400
- SL 0.0414
- TP0.0358
ผลตอบเเทนคุ้มเสี่ยง
- RR / 1/3.5
เสี่ยงเเต่ล่ะเทรด
-1%
เทคนิคที่ใช้เทรด คาดหวัง RR ตั้งเเต่
RR 1:2 - RR 1:10
เทคนิคคอลระบบเทรด
- Price Action
Youtube
-Hack Trader
*ขอมูลที่นำเสนอข้างต้น เป็นเพียงการวิเคราะห์เชิง Technical ส่วนบุคคล เพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้น
[CaseStudy หาหุ้นลงทุน] การเลือกหุ้นปันผลที่มีคุณภาพเหนือกาลเวลาสวัสดีครับ สำหรับหลักการในวันนี้ผมอยากมานำเสนอการหาหุ้นที่เรียกได้ว่าเป็นหุ้นที่อาจเป็นปันผลให้เราประดับพอร์ตในการกระจายความเสี่ยง และหาโอกาสท่ามกลางตลาดลงกันนะครับ
และปฏิเสธไม่ได้นะครับว่าตอนนี้เป็นช่วงที่ตลาดขาลงและเป็นช่วงที่ลงทนเพื่อ Runtrend ก็นับว่าลำบากพอสมควร
ผมเลยใช้เวลานี้ไปกับการศึกษาขุดหาบริษัทดีๆ ที่ตอนนี้อาจมีตำหนิบ้าง แต่อาจกลับมาได้อาจจะดีกว่าก็ได้ครับ เป็นการใช้เวลาให้เหมาะสมอีกด้วย
โดยผมจะมีการอ้างอิงหนังสือที่ผมได้ตกตะกอนได้หลักๆ คือ 2 เล่มนี้ครับ นั่นคือเล่ม One Up on Wall Street กับ Warren Buffett Ways
โดยหลักการที่ผมอยากถ่ายทอดจะเป็นเรื่องของ
1) การหาบริษัทจากสิ่งรอบตัว การดูสิ่งแวดล้อมว่าเทรนด์อะไรที่มีอนาคต ซึ่งได้มาจากเล่ม One Up on Wall Street ของคุณปีเตอร์ ลินซ์ ครับ
2) การคัดเลือกบริษัทที่มีศักยภาพแบบเล่ม Warren Buffett Ways รวมถึงหยิบหลักการเรื่องของปราการและคูคลองมาใช้ในการเลือก
โดยหลักการนี้ผมจะมาพูดในวีดีโอนี้กันครับ และขอมาแนะนำหุ้นหมวดหนึ่งที่มี Moat ที่อยากจะนำเสนอไม่มีในไทยได้รู้จักด้วยครับ เผื่อเป็นโอกาสใหม่ๆ ในการลงทุนในต่างประเทศครับผม
ท้ายสุดนี้มี Key Takeaway ที่ผมตกตะกอนได้เกี่ยวกับบริษัทที่ตลาดมองว่ามีคุณภาพ ซึ่งมีหลักๆ ประมาณ 7 ข้อ ดังนี้ครับ
1)เป็นบริษัทมี Profit Margin สูง
2)บริษัทมี Free Cash Flow ตลอด
3)นอกจากมี Free Cash Flow สูงแล้ว มีการลง Capex ในระดับไม่มากนัก (อาจจะไม่เกิน 35% ของกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน)
4)บริษัทมีอัตราผลตอบแทนต่อเงินลงทุนมีอัตราที่สูง
5)พึงระลึกไว้ ว่าหุ้นปันผลดีๆ คือบริษัทที่มี Recurring Income อย่างสม่ำเสมอ
5.5) และจำดีมากหาก Income ส่วนนี้เพิ่มสูงขึ้นเหนือกว่าอัตราการเพิ่มของ GDP กับ Inflation
6)จากข้อที่ 5 Recurring Income ล้วนมาจากการมี Recurring Revenue ที่มีศักยภาพ กล่าวคือสินค้าหรือการบริการของบริษัทต้องเป็นที่ต้องการตลอด และอาจมีเพิ่มขึ้นบ้าง
7)จากข้อที่ 6 Recurring Revenue จะดีมากที่สุดหากว่าไม่มีคู่แข่งหรือสินค้าสับเปลี่ยนมาตัดกำลัง คงดีไม่น้อยหากเราซื้อหุ้นที่ดูผูกขาด แต่ก็สามารถวางตัวให้ไม่มีข้อครหาได้ ตรงนี้ขึ้นอยู่กับฝ่ายบริหารแล้วครับ ว่าวางตัวและดำเนินนโยบายสร้างภาพลักษณ์อย่างไร
สำหรับสิ่งที่ผมตกตะกอนและอยากฝากฝังทุกคนไว้ก็มีเพียงเท่านี้ หวังว่าวีดีโอและเนื้อหานี้จะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อย หากทุกคนชอบผมก็ดีใจและฝากร้ investing ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจทุกคนด้วยนะครับ ที่นี่เราจะรวมหนังสือที่เกี่ยวข้องกับจักรวาลนักลงทุนไว้ในที่เดียว เพื่อเสริมศักยภาพสังคมการลงทนต่อๆ ไปครับ
โชคดีรักษาสุขภาพ Stay Healthy Stay Wealthy ครับผม
AH , TF DAY (17/06/2021)พิจารณาจาก technical
- กราฟทำทรง ขึ้น พัก ทะลุ มาหลายชุดคลื่นอย่างต่อเนื่อง
- ปัจจุบันราคาอยู่ในโซนการพักตัว บริเวณ 61.8% ของฟิโบ
- แนวต้าน 26.6 / 31 บาท ตามลำดับ
- แนวรับ 22.5 / 19.7 บาท ตามลำดับ
พิจารณาจากปัจจัยพื้นฐาน
- บริษัทเคยทำกำไรได้เป็นปกติ ก่อนจะนำเงินไปลงทุนขยายสาขาและทำให้บริษัทขาดทุนใน Q4 2019
- Q1 2021 รายได้ออกมาดีโดยมี EPS ที่ 1.15 เท่า
- หากดู EPS ในอดีต บริษัททำกำไรได้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยให้ค่ากลางไว้ที่ 0.6 ต่อไตรมาส
- PE ที่ตลาดเคยให้คุณค่าในอดีต ตลาดเคยให้ค่า (แบบกดราคา) ไว้ที่ประมาณ 8 เท่า
- PE กลุ่มยานยนต์ปัจจุบันตลาดให้มูลค่าประมาณ (แบบกดต่ำสุดๆ) 10 เท่า
ดังนั้น
- เมื่อพิจารณาจาก EPS ที่เป็นค่ากลาง 0.6 x 3 ไตรมาสที่เหลือ = 1.8 + ไตรมาส 1 ที่ทำได้ 1.15 = EPS 2.95
- 2.95 x 8 = 23.6 บาท
- 2.95 x 10 = 29.5 บาท (faie value แบบกดสุดๆ)
สรุป
- พยายามสะสม ตามกรอบจากการพิจารณาทั้งทางด้าน เทคนิคอล และ ปัจจัยพื้นฐาน
- Risk to reward Ratio 1:2 (หรือ Reward มากกว่าหากตลาดให้มูลค่าหรือมาจากคนที่ไล่ซื้อตอนเบรคไฮ)
- Downsize -15% Upsize 30% +
แนวรับถัดไปของ XAU/USD จะอยู่ที่ระดับจิตวิทยา $1,60026 กันยายน 2022, 05:58 น
• ราคาทองคำปรับตัวลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปีครึ่งที่ 1638.90 ดอลลาร์
• PMI ของ S&P ทั่วโลกที่เปิดเผยในสหภาพยุโรป สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา ได้จุดชนวนให้เกิดความกลัวต่อภาวะถดถอยของนักลงทุน ซึ่งเพิ่มความอยากอาหารสำหรับเงินดอลลาร์สหรัฐที่ปลอดภัยมากขึ้น
• การวิเคราะห์ราคาทองคำ: พักต่ำกว่า $1,638 เพื่อส่ง XAU/USD ไปที่ $1600
ราคาทองคำร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปีครึ่งหลังถูกกดดันจากความเสี่ยงและไหลเข้าหาดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 2 ทศวรรษใหม่ โดยรวมแล้ว ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าและผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่สูงขึ้นเป็นสาเหตุสองประการที่ทำให้กลุ่มโลหะมีค่าร่วงลง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโลหะสีเหลือง ในขณะที่เขียน XAU/USD ซื้อขายที่ $1643.50 ต่อทรอยออนซ์
หุ้นสหรัฐร่วงลงเมื่อวอลล์สตรีทปิดตัวลงโดยขาดทุนหนักระหว่าง 1.62% ถึง 1.80% ในวันศุกร์ อัตราบันทึกย่อมาตรฐานอายุ 10 ปีของสหรัฐฯ หวนกลับจากการให้ผลตอบแทน 3.829% และถูกกำหนดให้สิ้นสุดสัปดาห์ที่ต่ำกว่าเกณฑ์ 3.70% ในบันทึกเดียวกัน อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ (TIPS) ได้ให้น้ำหนักกับโลหะที่ไม่มีผลตอบแทน ซึ่งคาดว่าจะสิ้นสุดที่ 1.33%
ในระหว่างนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังคงทำระดับสูงสุดในรอบ 20 ปี โดยดัชนีดอลลาร์สหรัฐอยู่ที่ 112.990 เพิ่มขึ้น 1.55% หลังจากแตะระดับสูงสุด YTD ที่ 113.228
การตัดสินใจของเฟดในวันพุธ ที่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% และเปิดประตูให้เพิ่มขึ้นอีก 120 bps ทำให้เกิดความกลัวว่าสหรัฐฯ จะถดถอย มาตรการกิจกรรมทางธุรกิจทั่วโลกชุดหนึ่งเปิดเผยในระหว่างวันคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะถดถอยในเขตยูโรและสหราชอาณาจักร ในกรณีของสหรัฐอเมริกา S&P Global PMI ดีขึ้น แม้ว่าการอ่านค่าบริการและคอมโพสิตจะยังคงอยู่ในเขตเศรษฐกิจถดถอย
แหล่งข่าวที่อ้างโดยรอยเตอร์ให้ความเห็นว่า “ทองคำและโลหะกึ่งการลงทุนอื่นๆ เช่น เงินและแพลตตินั่ม มีแนวโน้มที่จะยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดันจนกว่าตลาดจะถึงจุดต่ำสุด”
นอกจากนี้ XAU/USD เริ่มซื้อขายที่บริเวณ $1670 และไต่ขึ้นสู่ระดับสูงสุดรายวันที่ $1675.93 ต่อมา ราคาโลหะสีเหลืองร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดของ YTD ที่ 1638.90 ดอลลาร์
การวิเคราะห์ราคาทองคำ (XAU/USD): แนวโน้มทางเทคนิค
ลิ่มที่ตกลงมาซึ่งปรากฏในกราฟรายวัน XAU/USD ถูกยกเลิกเมื่อราคาสปอตร่วงลงต่ำกว่าเส้นแนวโน้มด้านล่าง น่าสังเกตว่าแม้ว่า RSI จะส่งสัญญาณว่าทองคำมีการขายมากเกินไป แต่แนวโน้มขาลงของโลหะสีเหลืองยังคงไม่บุบสลาย ดังนั้นแนวรับครั้งแรกของ XAU/USD จะอยู่ที่ระดับต่ำสุดของ YTYD ที่ $1638.90 เมื่อเคลียร์แล้ว แนวรับถัดไปของ XAU/USD จะอยู่ที่ระดับจิตวิทยา $1,600 ตามด้วยจุดต่ำสุดของเดือนมีนาคมปี 2020 ที่ $1451.41
[Hybrid Study:John Neff] แก่นการลงทุนหุ้นวงจร เพือถือรันหลายเด้งสวัสดีครับพี่ๆ เพื่อนๆ ทุกท่าน วันนี้ผมจะมาขอ Tribute หลักการลงทุนของคุณ John Neff ซึ่งสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการลงทุนในสายผสมนี้กันนะครับ
และเนื่องในโอกาสที่วันที่ 19 กันยานี้เป็นวันคล้ายวันเกิดของคุณ John Neff และคุณ John Neff เองก็เพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อไม่กี่ปีนี้เอง นับว่า 1 ในตำนานแห่งโลกการลงทุนของเราได้จากเราแล้วอีกหนึ่งราย แต่ว่าหลักการของคุณ John Neff จะยังคงอยู่ในจิตใจของนักลงทุนสาย Value ทุกท่าน
สำหรับผมแล้ว การระลึกถึงและ"ให้เกียรติ" หลักการของใครก็ตาม คือการใช้หลักการนั้นเป็นพื้นฐานอ้างอิงเพื่อให้หลักการนั้นเป็นที่พูดถึง และขัดเกลาให้ทันต่อโลกมากขึ้น ผมชอบหลักการของคุณ John Neff มาก จึงเป็นเหตุให้เขียนอินดิเคเตอร์ DDM ขึ้นมาด้วย
และสิ่งที่ผมได้ทำในวันนี้ก็คือการทำให้หลักการของคุณ John Neff ยังคงมีชีวิตอยู่ อย่างน้อยก็ปรับประยุกต์ใช้ในรูปแบบกราฟผ่าน Trading View ซึ่งโค้ดอินดิเคเตอร์นี้ผมได้รับแรงบันดาลใจมาจากคุณ John Neff อย่างแท้จริง
หลักการลงทุนนี้ผมใช้กับการอาศัยซื้อหุ้น(โดยเฉพาะหมวดวงจร : Commodities) ในจุดที่ PE ต่ำอย่างสวนตลาด แต่หลักการที่เราจะได้มาที่ PE ต่ำนั้น ย่อมเกิดจากการปรับ ตัว E หรือ EPS จากสมมการ PE = Price / EPS , โดยผมจะ Predict ค่า EPS ผ่านตัวรายได้ในแบบที่ควรจะเป็น
และนำรายได้นั้นมาจับคุณด้วยอัตราส่วน Net Margin ในระดับ Base Case-Best Case ซึ่งค่าตัวเลขของ Net Margin นี้เราจะได้มาจากการทำ Research หุ้นในหมวด Commodities ย้อนหลังนะครับ
และจะตั้งตัวเลขพวกนี้เสมือนเป็นตุ๊กตาเฉยๆ เพื่อให้เราหาค่า EPS ให้ได้
ในการตั้งค่า Net Margin นี้ ผมจะมีการตั้งเป็นหลายค่ามากๆ และค่าที่ต่ำที่สุดก็คือ 1% มาจากสมมติฐานที่ว่าปกติหุ้น Commodities ตอนจะจบรอบราคาเขาจะลงมาแรงมากๆ จากราคาสินค้าอ้างอิงตกต่ำไม่ว่าจะเหล็ก น้ำมัน เคมี แร่ธาตุต่างๆ
เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้แล้วส่วนมากบริษัทจะมีผลขาดทุนจากสต็อกสินค้าก็ดี หรือจากรายได้จากการขายสินค้าลดลง จนแบกรับต้นทุนคงที่ไม่ได้ ทั้งหลายนี้เองจึงทำให้ตัว PE ของบริษัท “ติดลบ” หรือก็คือคำนวณไม่ได้ หรือแม้แต่ PE พุ่งสูงขึ้นเป็นหลัก “ร้อยเท่า” จากการที่ EPS นั้นแกร่งนั่นเอง
การที่ผมตั้ง Net Margin ที่ 1% นี้ก็เพื่อเป็น “บาร์อย่างต่ำๆ” ที่บริษัทสมควรทำได้ เมื่อเราได้ NPM ที่ 1% มาได้แล้ว เราก็จับ 1% มาคูณกับตัวเลขรายได้ครับ(ตรงส่วนนี้บางคนอาจใช้รายได้เมื่อปีที่แล้ว หรือว่ารายได้เฉลี่ย 5 ปีย้อนหลัง แล้วแต่สไตล์แต่ละคนเลยครับ)
เมื่อนำ Revenue * NPM แล้วเราก็จะได้ “กำไรสุทธิ” จากนั้นก็นำมาหารด้วยจำนวนหุ้น ทีนี้เราก็ได้ EPS อันเป็นพระเอกของเราแล้ว
จากนั้นเราก็นำ EPS มาเพื่อที่จับคูณด้วย PE อย่างที่ควรจะเป็น โดยเคสนี้ผมจะให้ที่ PE = 6-8 ตรงส่วนนี้หากใคร Conservative มากๆ อาจใช้ที่ PE 5 ไปเลยก็ได้ โดยมีการตั้งสมมติฐานว่า “ใครกันล่ะ จะไม่อยากได้หุ้น PE 5 เท่า หรือหุ้นที่จ่ายเงินปันผลหลัก 10% ต่อปี ณ ระดับราคาฐานต่ำนี้”
ในตอนนี้เราก็ได้ราคาหุ้นแล้ว ผมก็ให้แสดงค่าเป็นเหมือนเส้นแนวรับแนวต้านที่จะอัพเดตทุกๆ ปีนะครับ จากการที่ข้อมูลการเงินจะมีอัพเดตใหม่ทุกปี ตรงเส้นแนวรับ/แนวต้าน พวกนี้เสมือนกับเป็น “แนวรับเชิงพื้นฐาน” นั่นเองครับ
หุ้นใดก็ตามที่ลงมาเทสที่เส้นนี้ และมีการทำแท่งเทียนกลับตัว หรือมีการพักตัวตรงนี้เราอาจพิจารณาเอาเขามาใส่ลิสเพื่อรอวันให้เกิด Catalyst ให้ราคาขึ้นไปกันนะครับ จากนั้นก็รับเทรนไปเรื่อยๆ
หรือหากท่านใดเป็นสายHardcore อาจนำหุ้นนั้นไปวางหลักทรัพย์ค้ำประดันในการขอบัญชี Margin มาต่อเงินอีกรอบก็แล้วแต่สไตล์ท่านเลยครับ
หวังว่าแนวทางนี้จะมีประโยชน์กับท่านผู้อ่านผู้ฟังทุกคนนะครับ โชคดี รักษาสุขภาพ Stay Healthy Stay Wealthy นะครับผม
GBPJPY วันที่ 22 Sep 2022 - Northanos FXGBPJPY วันที่ 22 Sep 2022 รายละเอียดการวิเคราะห์สามารถดูได้ที่คลิปเลยนะครับ
ปล. นี่เป็นเพียงบทวิเคราะห์เพื่อเป็นกรณีศึกษาเท่านั้น
ไม่ได้มีเจตนาเป็นการบอก Signal แต่อย่างใด ดังนั้นผมจะไม่มีการ
รับผิดชอบแต่อย่างใด สำหรับกำไรที่จะได้รับ หรือความเสียหายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
#Elliottwave #พื้นฐาน #Basicการรู้ว่าเมื่อไรที่เราผิด สำคัญกว่าการรู้ว่าเมื่อไรที่เราถูก
ในการเคลื่อนที่ของแนวโน้มที่แข็งแกร่ง ราคาจะไม่เกิดการทับซ้อนกัน และจะไม่ย้อนกลับเกินจุดเริ่มต้นของคลื่นก่อนหน้าในระดับเดียวกัน ก่อให้เกิดกฎสำคัญของ Elliott wave ในการนับคลื่นที่เป็นแนวโน้มในรูปแบบ Impulse ที่ไม่สามารถละเมิดได้ หากละเมิดกฎเหล่านี้การนับคลื่นเราจะผิดทันที
1 คลื่นสองไม่สามารถย้อนกลับได้มากกว่า 100% ของคลื่นหนึ่ง
2 เทียบระหว่างคลื่นหนึ่ง คลื่นสาม คลื่นห้า คลื่นสามต้องไม่ใช่คลื่นที่สั้นที่สุด
3 คลื่นสี่จะไม่มีจุดสิ้นสุดภายในอาณาเขตของคลื่นหนึ่ง
2022 : ปีแห่งการเชือดทั้ง Short และ Long ( 27/8/2022 )ปี 2022 ที่ผ่านมา ตั้งแต่ต้นปี จนถึงตอนนี้ จากการนั่งส่อง Price Action แล้ว ผมบอกเลยว่า ตลาด โคตรจะโหดร้าย โดยเฉพาะคนที่ Overtrade หรือ ใช้ Leverage ในการเล่นคริปโต ก็จะโดนกันไปไม่น้อย
เพราะจากรูปที่ผมแปะช่องข้อความให้ดู ก็จะเห็นว่า ไม่ว่าคุณจะเล่นฝั่ง short หรือ ฝั่ง long สุดท้าย ถ้าคุณ "คัทไม่เป็น" คุณก็จะโดนลากจนพอร์ตแตกอยู่ดีครับ
โดยเราพอจะสรุปได้ว่า
1) คนที่เล่นฝั่ง Long
- พอร์ตแตกเพราะไปคิดว่า "น่าจะลงมาแค่นี้แหละ ไม่ลงไปมากกว่านี้แล้ว" แล้วก็ไปจัดหนักจัดเต็มหลาย x ด้วยเงินที่มีทั้งหมดกัน
- พอเริ่มติดก็ไม่ยอมแพ้ ไปถัวสู้ ไปเติมเงิน เพราะยังไปติดกับภาพจำตอนปี 2021 ที่ตลาดยังเป็นขาขึ้นว่า "แค่ย่อ เดี๋ยวก็เด้ง"
- สุดท้าย ก็โดนทุบหลุด low รัวๆ ถ้าใครถัว สุดท้ายก็จะพอร์ตแตกกันยับๆ อยู่ดีในท้ายที่สุด เพราะ มันลงมามากกว่า -50% คุณเล่น safe สุดแค่ 2x ยังไงก็ตายครับ
- ตอนนี้ ผมก็ยังเชื่อว่า หลายๆ คน ที่ยังมีเงินเติม ยังไม่ยอมแพ้ และคิดว่า 20k น่าจะ "เอาอยู่" เพราะมันเป็นยอดเก่าของปี 2017 และมโนกันไปว่า นี่คือราคาทุนขุด มันไม่ลงไปมากกว่านี้หรอก
- ปัญหาคือ ถ้ามันลงไปอีกขา ...ก็พอร์ตแตกกันอยู่ดี
2) คนที่เล่นฝั่ง Short
- เอาจริงๆ คนที่เล่นฝั่ง short จากกราฟ จะเห็นได้ว่า มีหลายๆ ช่วงที่กราฟรูดแรง น้ำตกมา คนพวกนี้ก็จะได้กำไรกันเยอะมาก
- แต่ปัญหาของฝั่ง short ก็คือ ตอนกำไรอ่ะ แม่งกำไรนิดเดียว เพราะยังไงกำไรพื้นฐานของด้าน short จะไม่มีวันเกิน -99.99% ( ถ้าใช้ leverage ก็ค่อยคูณเพิ่มกันไป )
- แต่ตอนมันลากกลับเนี่ย ฝั่ง short จะแตกกันเร็วมาก.. เพราะเวลากราฟขึ้น % มันจะขึ้นแรงกว่าตอนลงเสมอ
- ทีนี้ พวกที่เล่นฝั่ง short แล้วได้ตังกันง่ายๆ เวลาโดนลาก ก็มักจะ "ไม่ยอมแพ้" เพราะ.. ที่ผ่านมา ตอนกราฟดีด ถ้าคุณถัวสู้ สักพัก คุณจะมีโอกาสกลับมาได้กำไร ( ถ้าพอร์ตไม่แตกไปซะก่อน )
- ทำให้ หลายๆ คน เสพติดท่านี้ และ "ไม่ยอมแพ้" เวลาโดนลากกันเสมอ พอใกล้จะล้างก็เติมเงินฮีลพอร์ตไปเรื่อยๆ
- ปัญหาคือ ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีเงินไว้ฮีลพอร์ตได้ตลอด สุดท้าย ก็จะมีคนที่โดนลากจนเงินหมดแล้วพอร์ตแตกอยู่เรื่อยๆ อยู่ดี..
- ยิ่งถ้าไปเล่น Cross Mode 20x กับ altcoins หลายๆ ตัว รอบล่าสุด ก็น่าจะโดนกันไปหมดตัวแน่นอน เพราะ ETH ขึ้นมาถึง +100% จาก Bottom ช่วงเดือน มิ.ย. ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะเล่นกี่ x พอร์ตคุณก็จะแตกหมดอยู่ดีครับ ( ยกเว้นมีตังเติม ฮีลพอร์ต ไปเรื่อยๆ นะ 55 )
สรุปว่า
- ตลาด มันโหดร้าย มันจะไม่ปราณีใคร แถมยึดเงินคืนจากมือใหม่ไปหมดด้วย ลงๆ ให้มือใหม่สาย short ตายใจ แล้วก็ลากกลับจนแตก เสร็จแล้วก็ลงต่อ แม่งโคตรน่าเจ็บใจที่สุดแล้วล่ะ 555
- ไอ้การเล่น short เนี่ย มันไม่ง่าย โดยเฉพาะมือใหม่ ที่ยังต้องเที่ยวคอยไปพึ่ง signal จากกูรูต่างๆ ซึ่งผมจะแนะนำทุกคนเสมอว่า ถ้าคุณยังไม่สามารถวางแผนเองได้ .. จงอย่าเข้ามาเล่น short เพราะสุดท้าย คุณจะเจ๊งอยู่ดี
- เอาจริงๆ Price Action ทรงแบบนี้ มันไม่ใช่ไม่เคยมีมานะ มันมาเรื่อยๆ ตั้งแต่ปี 2018-2019-2020-2021 แล้วครับ
- 2018 : ลากเดือนทุบเดือน ตายทั้งฝั่ง short และฝั่ง long
- 2019 ต้นปี : ลากโหดสัสจาก 3200 ไป 14000 ใครที่ short แล้วสู้ จะสู้แค่ไหนก็พอร์ตแตก
- 2019 ปลายปี : เหี่ยวๆ อยู่ดีๆ ลากกลับสองวัน +40% ใครที่ short แล้วรอดูว่าจะทำไงดี ก็พอร์ตแตกหมด
- 2020 ต้นปี : ขึ้นจาก 6500 ไป 10000 แล้วย่อลงมา 8000 สายนับเวฟบอกว่า นี่แหละเวฟ 1-2 ใหญ่ สรุปแล้วร่วงไป 3600 ก็เจ๊งกันหมด
- 2020 ปลายปี : ขึ้นจาก 10000 ไป 20000 พวกนับเวฟ ขึ้น B ลง C แน่นอน ก็เจ๊งกันหมด เพราะหลังจากนั้นขึ้นไปถึง 65000
- 2021 ต้นปี : ขึ้นเรื่อยๆ กูรูบอกว่าจะไป 100k แน่นอน ก็เลยไปจัดหนักจัดเต็มที่ยอด สรุปแล้วลงจาก 65k มาถึง 30k ก็เจ๊งกันหมด
- 2021 ปลายปี : ดีดกลับงงๆ พวก short บอกว่า ขึ้น B ลง C ลึกแน่นอน กลายเป็นว่า ดีดจาก 30k ไป 69k ใคร short ไว้ก็เจ๊งกันหมด
ถ้าให้ผมแนะนำ คุณจะรอดในตลาดนี้ได้ มีขั้นตอนง่ายๆ ไม่กี่ข้อเองครับ
1) เลือกเล่นแค่ฝั่งมองขึ้นเท่านั้น อย่าไปเล่น short เพราะเราจะลดความเสี่ยงลงไปเลยถึง 50% ( เล่นน้อยลง = เสี่ยงน้อยลง )
2) เล่นแค่ spot และ เล่นด้วยเงินไม่ถึง 100% ของพอร์ต ( Position Sizing ที่เหมาะสม )
3) มี ระบบ Trend Following ที่ backtest แล้วระยะยาวมีกำไร แล้วทำตามมันไปเรื่อยๆ อย่างมีวินัย
4) มี Stop Loss ที่ชัดเจน ตั้งแต่ก่อนเข้าซื้อ และเมื่อชน Stop ต้องหนีอย่างไม่มีข้อต่อรอง
5) เลือกเล่นแค่เหรียญหลักๆ อย่าง BTC, ETH, BNB อย่าไปเล่น shitcoins
- เอาแค่ 5 ข้อนี้ ถ้าคุณทำได้ โอกาสที่คุณจะอยู่รอดในตลาดก็จะเยอะขึ้นมากๆ แล้วครับ ส่วนจะอยู่ได้นานแค่ไหน ก็แล้วแต่ความตั้งใจของแต่ละคนแล้วล่ะ
EURUSD วันที่ 14 Sep 2022 - Northanos FXEURUSD วันที่ 14 Sep 2022 รายละเอียดการวิเคราะห์สามารถดูได้ที่คลิปเลยนะครับ
ปล. นี่เป็นเพียงบทวิเคราะห์เพื่อเป็นกรณีศึกษาเท่านั้น
ไม่ได้มีเจตนาเป็นการบอก Signal แต่อย่างใด ดังนั้นผมจะไม่มีการ
รับผิดชอบแต่อย่างใด สำหรับกำไรที่จะได้รับ หรือความเสียหายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
[Deep Value Scanner] หาหุ้นโคตรปลอดภัย ไม่เสี่ยงล้มละลายและดักVI แสกนหาหุ้น Deep Value โคตรปลอดภัย ไม่เสี่ยงล้มละลาย
สำหรับหลักการนี้ต้องขอขอบคุณ คุณเบนจามิน เกรแฮม ผู้เขียนตำรา Security Analysis และหนังสือ The Intelligent Investor และเป็นผู้ริเริ่มการลงทุนแบบ Value Investing แบบ Cigarette Butt ด้วยนะครับ
เทคนิคของ Deep Value กับเทคนิคหุ้นการลงทุนแบบ Cigarette Butt นี้ไม่ต่างกันมากเลย นั่นคือการซื้อหุ้นในมูลค่าที่น้อยกว่าทรัพย์สินส่วนของทุนบริษัท
ก่อนอื่นขอแนะนำตัวเลข 2 ตัวในการแสกนก่อนนะครับ เพื่อที่ทุกคนจะได้เข้าใจหลักการแสกนนี้ นั่นคือ
1 . Net Debt ซึ่งมีสูตรคือ Cash – (Short Term Debt + Long Term Debt)
2. Enterprise Value มีสูตรคือ (Market Cap + Debt )- Cash
โดยทั้งสองตัวเลขนี้ หากมีค่าติดลบก็หมายความว่าผ่านเกณฑ์แล้วครับ หลักการคือเราจะซื้อบริษัท ณ “ราคา” ที่น้อยกว่าเงินสดสุทธิหักลบหนี้สินของบริษัทนั่นเองครับ
สำหรับข้อดีข้อเสียของหลักการนี้มีดังนี้ครับ
ข้อดี
- เราสามารถซื้อหุ้นในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชีได้
- สามารถ Unlock Value ได้ ผ่านการเข้าไปถือหุ้น แล้วใช้สิทธิโหวตกดดันให้ผู้บริหารขายทอดกิจการ เพื่อนำเงินสดมาจ่ายสู่ผู้ถือหุ้นได้
- หากมูลค่าทางบัญชีสะท้อนความเป็นจริงแล้ว เหมือนกับการที่เราซื้อหุ้นโดยมีส่วนลด มีความสมเหตุสมผลในการลงทุนในเชิงทฤษฎี
(มีหลักยึดในการลงทุนชัดเจน)
- สิ่งที่เราต้องทำ มีเพียงอย่างเดียวคือการรอให้มูลค่าปลดล็อค สายกราฟคือหาจุดเข้าซื้อที่ได้เปรียบ
เช่นมีการสะสมพอสมควรแล้ว รวมถึงทำท่า Breakout อาจพิจารณาวางกลยุทธ์ได้
ข้อเสียและจุดอ่อน
- หากบัญชีมีการตกแต่งขึ้น อาจเป็นอุปสรรคได้ในการรับรู้มูลค่าที่แท้จริง
- ราคามักไม่ค่อยมีการขึ้นลงมาก หากไม่มีปัจจัยมาขับมูลค่า
เช่น การ Take Over , การขายสินทรัพย์ , การจ่ายเงินปันผลออกมา (ในกรณีที่บริษัทมีแต่เงินสดพร้อมจ่าย)
- ราคาหุ้นถูก ณ ตอนนี้ ไม่การันตีว่าจะราคาถูกตลอดไป
เช่นกรณีผู้บริหารใช้กลฉ้อฉล อย่างการนำเงินสดไปลงทุนในบริษัทอื่นๆ ซึ่งบริษัทอื่นๆ ที่ว่านี้อาจเป็น Shell Company ที่ผู้บริหารคนนั้นถือหุ้น
แล้วตั้งใจทำให้เกิดผลขาดทุน จนต้อง Whiteout ธุรกิจออกไปเกิดความสูญเสียทางบัญชีบริษัทเป็นต้น