วิเคราะห์ทองคำ 29 เมษายน ~ 3 พฤษภาคม 2567วิเคราะห์ทองคำ 29 เมษายน ~ 3 พฤษภาคม 2567
.
อาทิตย์แล้วทองคำไซเวย์ในกรอบ หัวทิ่มขึ้นลง เหมือนรอเลือกทางเดินอาจจะรอตัวเลขการจ้างงานสัปดาห์ก็เป็นได้ ทำโลใหม่ แต่ไม่ได้ทำไฮ
.
ข่าวอาทิตย์หน้าสำคัญ หลายข่าวมีการประกาศตัวเลขดอกเบี้ย จาก fed watch ยังคงดอกต่อไป ถ้าคงหรือลด บวกทองนตัวเลขนอนฟามในวันศุกร์ กองทุนมีการเทขาย 2.59 ตัน
.
ด้านเทคนิคคอล แท่งวีคเริ่มมีแท่งแดงบิสลิสให้เห็นแต่ยังมีๆส้ ติดรับ ยังไม่ได้ชัวว่าจะลงต่อนะ แท่งเดย์มีพินบาร์ชัดที่ราคาจะดันมาแต่ก็ขึ้นได้ h4 ไม่หลุดเส้นเทรนไลน์ เหมือนมันไซเวย์ออกข้างรอตัวเลขแระ
.
สรุป ต้านสำคัญ 2352 2416 2430 รับ 2312 2296 เล่นกรอบก่อนรอมันเบรกทางไหนค่อยว่ากันฟน้างานอีกรอบ ขอให้โชคดีในการเทรดทุกท่านครับ
ไอเดียชุมชน
แนวโน้มทองคำสำหรับ วันที่23/4/67ถ้าวันนี้ Day ปิดแท่งแดงเต็มๆแท่งได้ มองว่าสัปดาห์นี้ทองคำน่าจะพักตัวจนstoในภาพdayสามารถลากลงมาจน Oversold ได้
มองว่าน่าจะลงมาหาโซน 2265-2260 เต็มที่มองไม่เกิน2170
ภาพรายชั่วโมง ตอนนี้เป็นขาลง แนวรับ 2325 มีโอกาสที่ราคาจะรีบาวได้10-15เหรียญ ให้รอจนกว่ารายชั่วโมงจะสามารถรีบาวขึ้นมาจนsto overbought แล้วหาจังหวะsellตามเทรนด์ได้ มองเป้า2300 2280
การเทรดที่ดี ต้องมีกลยุทธ์ การจะเป็น Trader ที่ประสบความสำเร็จได้ จำเป็นจะต้องมีกลยุทธ์การเทรด จัดการซื้อขายให้เป็นระบบ เพื่อการทำกำไรได้อย่างสม่ำเสมอ สิ่งที่เราต้องชัดเจนคือ กลยุทธ์ของเราคืออะไร สินทรัพย์ที่ต้องการเทรด กรอบระยะเวลา และระดับความเสี่ยงที่ตัวเองสามารถยอมรับได้ สิ่งที่นักลงทุนควรมี ได้แก่
1 ความสม่ำเสมอ: การมี Action Plan ของตัวเอง ที่ทำหน้าที่เป็นเครื่องมือในการรักษากลยุทธ์เทรด ในขณะเดียวกัน ก็ลดอารมณ์ในการตัดสินใจของคุณให้เหลือน้อยที่สุด ความสม่ำเสมอ ดังกล่าวมักจะให้ผลลัพธ์ที่คาดการณ์ได้มากกว่าและเพิ่มประสิทธิภาพโดยรวมเมื่อเวลาผ่านไป
2 ความมั่นใจ: เมื่อตัวเองมี Playbook แล้ว คุณสามารถซื้อขายด้วยความมั่นใจในตนเองที่เพิ่มขึ้น โดยรู้ว่า คุณกำลังทำการกลยุทธ์ ที่ผ่านการทดสอบมาแล้ว ความมั่นใจนี้ จะช่วยลดความเครียดและความวิตกกังวล ช่วยให้คุณมีสมาธิและตัดสินใจได้ดี
3 ความสามารถในการปรับตัว: เมื่อเผชิญกับสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป การมี Playbook ไว้ใช้งานจะช่วยให้คุณสามารถปรับเปลี่ยน และปรับกลยุทธ์ได้ตามต้องการ ความสามารถในการปรับตัวนี้ เป็นปัจจัยสำคัญในการไปสู่ความสำเร็จได้
องค์ประกอบ 3 ประการของกลยุทธ์การเทรด
1. Pattern หรือ รูปแบบ : Pattern ของกราฟจะเป็นตัวกำหนดว่า จุดไหนเป็นจุดเข้าซื้อ จุดไหนเป็นจุดขาย โดยอาศัยการวิเคราะห์จากบริบท และรูปแบบกราฟ นำไปสู่การวิเคราะห์เชิงลึก
2. บริบท : ต้องทำเข้าใจบริบท สภาพแวดล้อมและสถานการณ์ที่อย่างถ่องแท้ เนื่องจากมีความสำคัญในการเพิ่มศักยภาพของกลยุทธ์การเทรดของคุณ เทรดเดอร์หลายคนเชื่อผิดว่า กลยุทธ์การซื้อขาย เป็นเพียงการระบุ
3. รูปแบบ หรือสิ่งกระตุ้นควบคู่ไปกับการบริหารความเสี่ยงขั้นพื้นฐาน
การบริหารความเสี่ยง: การจัดการความเสี่ยงที่ไม่ดี เป็นสาเหตุสำคัญของความล้มเหลวของเทรดเดอร์ มักเป็นผลมาจากการการขาดความเข้าใจ โดยแผนการจัดการความเสี่ยงของคุณไม่จำเป็นต้องซับซ้อนเกินไป แต่ต้องมีความชัดเจนและปฏิบัติตามอย่างขยันขันแข็ง ด้วยการปฏิบัติตามกลยุทธ์การบริหารความเสี่ยงที่แข็งแกร่ง คุณสามารถหลีกเลี่ยงหลุมพรางได้
สำหรับการซื้อขายรายวัน เราขอแนะนำดังต่อไปนี้
* ความเสี่ยงสูงสุด 1% ต่อการซื้อขาย
* ความเสี่ยงสูงสุด 2% ต่อวัน
* ความเสี่ยงสูงสุด 6% ต่อสัปดาห์
* ความเสี่ยงสูงสุด 10% ต่อเดือน
6 ขั้นตอนสำคัญในการสร้างและปรับแต่งกลยุทธ์การซื้อขายของคุณ:
1. กำหนด Trading Style : ไม่ว่าคุณจะเป็น Day Trade , Swing Trade หรือนักลงทุนระยะยาว ต้องเลือกกลยุทธ์ กรอบเวลา และเทคนิคการจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสม ตัวอย่างเช่น ระบุอัตราการชนะที่คุณต้องการ (เช่น 50%+) อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน (เช่น 2R ขั้นต่ำ) และ Trading Style เช่น การเทรดแบบ Scalping การซื้อขายตามตำแหน่ง หรือ Swing Trade
2. หาข้อมูลวิจัย และเลือก Strategy: ศึกษากลยุทธ์การเทรดที่หลากหลาย และเลือกกลยุทธ์ที่สอดคล้องกับ Trading Style ของเรา การยอมรับความเสี่ยง และเป้าหมายทางการเงิน
3. กำหนดเกณฑ์การเข้าและออก: สำหรับแต่ละกลยุทธ์ที่เลือก ให้กำหนดการเข้าและออกที่ชัดเจน กำหนดเป้าหมาย การหยุดการขาดทุนและกำไรของคุณเพื่อให้แน่ใจว่า คุณดำเนินการซื้อขายได้อย่างถูกต้อง และจำกัดการขาดทุนที่อาจเกิดขึ้น สิ่งสำคัญ คือ ต้องจัดทำแผนการเทรดที่กำหนดไว้อย่างดี ตัวอย่างเช่น ตัดสินใจจุดคุ้มทุน เมื่อถึงอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน 1:1 เปิดการซื้อขาย โดยเฉพาะด้วยอัตราส่วน 1:2 หรือปิด 50% ของตำแหน่งของคุณที่ 1:1 และส่วนที่เหลือ 50% ที่ 1:3
4. สร้างกฎการบริหารความเสี่ยง: ใช้กฎการบริหารความเสี่ยงที่แข็งแกร่งเพื่อปกป้องเงินทุนของคุณ รวมถึงการตั้งค่าเปอร์เซ็นต์สูงสุดของยอดคงเหลือในบัญชีของคุณต่อความเสี่ยงต่อการเทรด หรือใช้ที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อกำหนดขนาดตำแหน่งเพื่อควบคุมความเสี่ยงโดยอัตโนมัติ
5. ทดสอบ Strategy : ก่อนที่จะลงทุนจริง ให้ทดสอบ Strategy ของคุณ โดยใช้ข้อมูลตลาดในอดีต หรือบัญชีทดลอง ขั้นตอนการทดสอบนี้ ช่วยให้คุณปรับ Strategy และสร้างความมั่นใจในแนวทางของคุณได้ หากคุณไม่ได้ผลลัพธ์ดีเท่าที่ควร ในบัญชีทดลอง ขอแนะนำให้หลีกเลี่ยงการเสี่ยงด้วยเงินจริง จนกว่าคุณทักษะของคุณจะเก่งขึ้น
6. วิเคราะห์การซื้อขาย : จัดทำบันทึกเทรด ทั้งกลยุทธ์ที่ใช้ จุดเข้าและออก และสภาวะตลาด ในแต่ละครั้ง ตรวจสอบผลการซื้อขายของคุณเป็นประจำ เพื่อระบุจุดที่ต้องปรับปรุง และปรับแผนการเทรดคุณให้เหมาะสม
คำเตือน : ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
XAUUSD สงครามมาสนับสนุนทองให้ขึ้นได้อีกตามเป้าที่ตั้งไว้ ตอนนี้กราฟยังเป็นไปตามแผนทั้งหมดตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้ว ถือว่าอาทิตย์นี้มาอัปเดทคลื่นให้นะครับ
คลื่นชุดนี้ที่ขึ้นมาทั้งหมดเป็นคลื่น 3 ใหญ่สีแดง ซึ่งต้องมี 5 คลื่นย่อย
แล้วตามปกติคลื่น 3 นี้จะเป็นคลื่นที่ยาวที่สุดและจะมีคลื่นยืด หรือ extension อยู่ด้วย
จากการนับคลื่น ผมมองได้เป็น 2 กรณีคือ
1. คลื่น 1 ยืด เป็น 1 extension
2. คลื่น 5 ยืด เป็น 5 extension
แต่ที่น่าอัศจรรย์คือ ไม่ว่ามองแบบไหน ดันได้เป้าตรงกันพอดีเป๊ะเลย
กรณีแรก (ผมได้วาดคลื่นเป็นสีน้ำเงินวงกลม)
- หากเกิดเป็น 5 extension เป้าของ 5 extension คือ
- ระยะทางตั้งแต่ คลื่น 0-3 รวมกัน
- และวัดเป้าไปที่ 161.8% จะได้เป้าที่ราคา 2495
กรณีสอง (ผมได้วาดคลื่นเป็นสีแดงวงกลม)
- กรณี ที่มองเป็น 1 extension
- คลื่น 3 และ 5 จะมีระยะทางเท่าๆกัน
- คลื่น 3 วัดได้ 61.8%
- ดังนั้นคลื่น 5 เมื่อวัดเป้า 61.8% จะได้เป้าที่ราคา 2495 เช่นกัน
ปัจจุบันนี้ราคาทำเวฟ 4 เวฟที่ทิ้งลงมาแรงๆ
- แต่ยังไม่สามารถ ทำลาย Demand zone ของ tf H1+H4 ซึ่งเป้น extremly demand zone ด้วย
- ราคาได้ทะลุไปแต่มีแรงซื้อดึงกลับมาปิดอยู่ใน zone ได้ ถือว่ายังไม่สามารถทำลายได้นั่นเอง
- และย่อมาที่แนว fibo 38.2% พอดี ซึ่งสามารถเด้งขึ้นไปทำเวฟ 5 ได้เลย
สัปดาห์นี้เลยคาดการณ์ว่า ราคาสุดท้ายของคลื่น 3 แดงใหญ่ จะจบคลื่น 5 ที่ราคา 2495
ประกอบกับมีข่าวสงครามด้วย ซึ่งจะหนุนราคาทองคำให้ขึ้นได้
- ข้อควรระวัง ตรงนี้เป็นปลายคลื่นแล้ว ราคาอาจไปต่อได้อีกสักพัก และต้องมีการปรับตัวแรงๆ
- เมื่อจบเวฟ 5 วงกลม ของ 3 สีน้ำเงิน จะย่อลงไปทำเวฟ 4 สีน้ำเงินได้เลย แถวๆราคา 2290
- ให้นักลงทุนทุกคนระวังในการเข้าออเดอร์ เพราะจะกระชากแรงๆแน่นอน จากความผันผวนของราคา
ในภาพย่อยทองกำลัง form ขาที่ 5 ของ ending diagonalต่อจากบทความก่อนหน้าที่เป็นภาพใหญ่
ในบทความนี้เราจะมามองภาพย่อยๆ ดูเพื่อหาจุดเข้าที่มีโอกาสเป็นไปได้
ภายใต้เงื่อนไขของ Elliott wave rule และ Fibonacci
สืบเนื่องจากภาพใหญ่เราเห็นว่า Wave 5 ใหญ่มีการทำ Wave 5 ในรูปแบบ Extension
ซึ่งในการทำ Extension นั้นมักจะมี Ending diagonal ให้เห็นบ่อย
โดย Ending diagonal จะ form 3-3-3-3-3 (กล่าวคือมี 3 เวฟย่อยใน 5 เวฟ)
ในกราฟดังกล่าวจะเห็นว่ามีการทำ Alternation rule
ซึ่ง 2 และ 4 ฟอร์มเวฟแตกต่างกัน (Sharp or Sideway)
และปัจจุบันราคาได้ลงมา form เวฟสุดท้ายนั่นคือ เวฟ 5 ของ Ending diagonal
โดยได้ทำขา a ไป b และจากการคาดการเป็นไปได้ว่าอาจจะสะบัดขึ้นทำ ขา b ไป c เพื่อจบ
โดยทั่วไปอาจจะพบว่าขาสุดท้ายอาจจะทำ Throw-over เหนือ Trend line ที่ลากจากเวฟ 1 กับ 3
หรือจบในกรอบก็ได้
หากราคาจบในกรอบผู้เขียนคาดว่าน่าจะจบที่ราคาประมาณ 2445 ซึ่งจะเทียบกับ Equality rule
ซึ่งกล่าวว่า จะต้องมีเวฟใดเวฟนึงยาวสุด แล้วอีก 2 เวฟที่เหลือจะเท่ากัน
แต่ในทางกลับกัน ราคาก็สามารถ Throw-over ไปจบที่ 2461 ได้เช่นกัน
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้รอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน
บทความดังกล่าวมิได้เป็นการเชิญชวนการลงทุนแต่อย่างใด
เป็นเพียงความเห็นในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิง Technical
ไม่มีอะไรจะหยุดทองคำได้อีกแล้ว XAUUSD อย่าสวน sell เด็ดขาดขอเกริ่นจากอาทิตย์ก่อน ที่ผมได้วางแผนไว้แล้วว่า แผนอาทิตย์ก่อนถ้าจะแหก มีเหตุผลเดียวคือ
- คลื่น 3 ยังขึ้นไม่หยุด
- และคลื่น 3 ยังขึ้นไม่หยุดจริงๆ ไม่มี pattern ใดๆ หรือสัญญาณใดๆแสดงถึงจุดกลับตัว
- จนทำให้ทองคำ ATH และ ไร้ซึ่งแนวต้านใดๆ
- เหลือเพียงแค่ แนวต้านจาก fibo เท่านั้น
ซึ่งไอเดียนี้ผมเคยให้ไปก่อนหน้านี้แล้ว เด๊่ยวผมจะลงลิงค์ไว้ให้
ดังนั้นมาวิเคราะห์คลื่นที่ขึ้นมากันดีกว่า
- เริ่มจากคลื่นตอนนี้ เป็นคลื่น 3 สีแดงใหญ่ คลื่น 3 สีแดงใหญ่ตามหลัก impulse wave แล้ว จะเป็นคลื่นที่แรงที่สุด และมักจะเป็น impulse wave ใน impulse wave ซะด้วย ซึ่งหมายความว่า คลื่น 3 สีแดงใหญ่ จะประกอบไปด้วย 5 คลื่นย่อย
- ซึ่งผมได้ ลาเบลทั้ง5 คลื่นย่อย เป็น คลื่น 12345 สีน้ำเงินไว้แล้ว
- คลื่น 1,2 สีน้ำเงินได้จบแล้ว
- ราคา ณ ปัจจุบันอยู่ในคลื่น 3 สีน้ำเงิน
เมื่อถามว่า ราคาคลื่น 3 สีน้ำเงินจบหรือยัง เราต้องย่อยลงไปดูคลื่นย่อยอีกที ซึ่งคลื่น 3 สีน้ำเงินต้องมี 5 คลื่นย่อยเช่นกัน
เมื่อย่อยคลื่น 2 น้ำเงินใหญ่ ไป 3 น้ำเงินใหญ่ จะเห็นได้ว่า
- จะมี 5 คลื่นย่อยเหมือนกัน ซึ่งผมแทนเป็น 1-5 วงกลม
- 1,2,3,4 วงกลม ได้จบไปแล้ว
- โดย คลื่น 1 วงกลม ได้ทำรูปแบบ impulse (ตามที่ได้วิเคราะห์ไปเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน)
- คลื่น 2 วงกลมได้พักตัวแบบ running flat (ตามที่ได้วิเคราะห์ไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว)
- คลื่น 3 วงกลมได้ ทำ impulse wave ขึ้นมา และจบแบบ ending diagonal ตามรูปด้านล่าง พร้อมกับกราฟมีการ pull back มา retest เส้นล่างของ ending diagonal ก่อนลงไปทำเวฟ 4 วงกลม
- คลื่น 4 วงกลมได้ทำการปรับแบบ zigzag ดังรูป
ราคาขณะนี้กำลังทำเวฟ 5 วงกลม ซึ่งจะต้องขึ้นเป็นรหัส 5 หรือเป็นเทรน
- ดังนั้น เป้าที่ราคาเวฟ 5 วงกลมน่าจะไปถึงคือ 2410
เหตุผลที่สนับสนุนไอเดียนี้คือ เมื่อวัดเป้า fibo ของคลื่น 1 extension จะเห็นได้ว่า คลื่น 3 วงกลมได้จบที่ราคาระดับ fibo 61.8% ซึ่ง เมื่อคลื่น 1 เป็น extension คลื่น 3,5 ควรจะมีระดับใกล้เคียงกัน และคลื่น 3 ต้องไม่สั้นที่สุด ปรากฎว่า คลื่น 5 ที่ราคาไปจบนั้น มี confluence 2 ที่
- ระดับ fibo 61.8% ของคลื่น 1 extension
- ระดับ fibo 127.2% ของ fibo คลื่น 1 สีน้ำเงิน จึงคิดว่า 3 น้ำเงินน่าจะจบตรงนี้
จากนั้นคลื่นจะลงไปทำ 4 น้ำเงิน
- จุดที่ผมมองว่า จะลงไปทำ 4 น้ำเงินนั้น จะเป็น trendine ระดับ tf day ที่โดน break ขึ้นมา
- กราฟจะลงไป retest เส้นนี้ก่อนเพื่อขึ้นต่อ
- ซึ่งตรงจุดนี้ มี Demand zone ที่แข็งแกร่งของ tf 4H รับไว้ด้วย จึงคิดว่าควรจะมาสัมผัสจุดนี้และขึ้นคลื่น 5 สีน้ำเงินต่อไป เพื่อจบ เวฟ 3 ใหญ่สีแดง
- เป้าขา 5 น้ำเงิน หรือ 3 สีแดง เบื้องต้นให้ไว้ที่ 2525 ไว้ก่อน
- เนื่องจากราคานี้เป็น ระดับ fibo 161.8% ของ fibo คลื่น 1 สีน้ำเงิน จึงคิดว่า 5 น้ำเงินขั้นต่ำต้องมาถึงจุดนี้
Doge 10/04/67จากตัวราคาทีลงมาจากการวิเคราห์ก่อนหน้าว่า DOGEกำลังทำ a b แล้วลงc เพื่อจบซับเวฟ2 ofW3 โดยb มีรูปแบบเป็น Strong b ; Running flat ซึ่งb ขึ้นไปทดสอบที่ 138.20%-161.80% ofa ทำให้c ที่ลงมาสามรถลงได้ทุกแนวfib โดยที่ต้องไม่ต่ำกว่า38.2% และไม่เกิน100% ของa จะเห็นว่าเมื่อกราฟลงมาอยู่ในช่วงแนวรับที่50%-61.8% ราคามีการดีดตัวกลับอย่างรุนแรง ทำให้อนุมานได้ว่า c ของซัฟเวฟ2จบแล้ว แล้วกำลังทำ12345 ของซัฟเวฟ3 ofW3 ต่อไป.
Bitcoin ปั้มสูงขึ้น น่าจับตามองจากมุมมองทางเทคนิค ราคาของ Bitcoin เพิ่มขึ้นจากระดับต่ำสุดที่ 64,589 ดอลลาร์ ทะลุระดับ 69,355 ดอลลาร์ และออกจากช่วงการแข็งตัว แม้ว่าโมเมนตัมจะลดลงเล็กน้อย แต่ก็ยังมีศักยภาพมากที่จะเพิ่มขึ้นอีก ความท้าทายเร่งด่วนคือการก้าวข้ามแนวต้านที่ 74,325 ดอลลาร์ โดยเป้าหมายถัดไปสำหรับผู้ซื้ออยู่ที่ 81,940 ดอลลาร์
Fibonacci Extension vs. Fibonacci RetracementFibonacci Extension vs. Fibonacci Retracement
By PapaFinanceTalk
March 10, 2024
______________________________
Fibonacci Extension and Fibonacci Retracement are two essential tools employed by traders to forecast price movements. While both utilize Fibonacci ratios, they serve distinct purposes and are applied differently. This article provides a comprehensive analysis of their key differences and practical applications.
______________________________
1. Fibonacci Extension
Fibonacci Extension projects potential price targets beyond the end of a price trend. It utilizes the length of the initial price swing or trend to estimate subsequent price extensions after a retracement or pullback. Commonly used Fibonacci Extension levels include 127.2%, 161.8%, 200%, 261.8%, and 423.6%.
Key Features :
- Predicting Continuation Price Targets: Fibonacci Extension leverages the initial price swing's length to approximate subsequent price targets.
- Trend Analysis: It is utilized in trending markets to anticipate where a trend may extend after a retracement or consolidation phase.
- Identifying Profit-Taking Points: Fibonacci Extension levels can serve as potential profit-taking or exit points for existing trades.
______________________________
2. Fibonacci Retracement:
Unlike Fibonacci Extension, Fibonacci Retracement focuses on identifying potential reversal or retracement points within a price trend. It utilizes the length of previous price swings to estimate areas where the current trend may pause or reverse. Commonly used Fibonacci Retracement levels include 23.6%, 38.2%, 50%, 61.8%, and 78.6%.
Key Features:
- Identifying Reversal or Retracement Points: Fibonacci Retracement helps traders pinpoint areas where a price trend may reverse or retrace based on the length of previous price swings.
- Corrective Phase Analysis: It is commonly used during corrective phases within a price trend to anticipate potential reversal levels.
- Trade Signal Confirmation: Fibonacci Retracement levels can serve as confirmation points for trade signals generated by other technical indicators or price action analysis.
______________________________
Key Differences:
- Purpose: Fibonacci Extension aims to project price targets beyond the end of a trend, while Fibonacci Retracement focuses on identifying potential reversal or retracement points within a trend.
- Application: Fibonacci Extension is used in trending markets to identify potential profit-taking points, whereas Fibonacci Retracement is utilized during corrective phases to anticipate trend reversals or continuations.
- Fibonacci Ratios: Fibonacci Extension commonly uses higher ratios (e.g., 127.2%, 161.8%, 261.8%), while Fibonacci Retracement typically employs lower ratios (e.g., 23.6%, 38.2%, 61.8%).
______________________________
Conclusion:
Both Fibonacci Extension and Fibonacci Retracement are valuable tools for traders, offering complementary insights into price movements. By understanding their distinct purposes and applications, traders can effectively incorporate them into their trading strategies to make informed decisions and maximize their potential for success.
______________________________
Disclaimer: This analysis is for informational purposes only and should not be considered as investment advice. Always conduct your own research and consult with a financial professional before making any investment decisions.
BTCUSD Daily Analysis 7/4/2024 by TraderTanBINANCE:BTCUSDT ข้อมูลข่าวสาร:
นักวิเคราะห์เตือน! Bitcoin กำลังจะร่วงก่อนที่จะเกิด Bitcoin Halving ข่าว BITCOIN ตอนนี้ Bitcoin กำลังอยู่ในระยะสะสม และกำลังจะเตรียมเข้าสู่เฟสสุดท้ายก่อนเกิด Bitcoin Halving
นักวิเคราะห์รายนี้ระบุว่า จะมีระยะสะสมเกิดขึ้นและเกิดการร่วงก่อนที่จะเข้าสู่ Bitcoin Halving และโอกาสนี้เป็นโอกาสที่จะที่นักลงทุนจะมีโอกาสช้อน Bitcoin ก่อนที่มันจะพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงหลังจาก Halving
BUY : ุ69677
TP : 71281
SL : 68092
เหตุผลในการเข้าเทรด:
จากกราฟแท่งเทียนในกรอบ TF H4
ราคาเริ่มไต่ขึ้นอีกครั้งจากการพักตัว โดนราคาเริ่มไต่ขึ้นอีกครั้งจากการตัดกันของเส้น EMA ทั้งสามเส้น ส่งผลให้ราคายังสามารถไปต่อได้อีกในระยะยสั้นๆ เนื่องจาก ราคามีการทำไฮไว้ก่อนหน้านี้ที่แนวต้านบริเวณ 71500
จึงทำการเข้า BUY จากจุดกึ่งกลางของเทรนในขาขึ้น
จุดเข้า - จุดออก เป้าหมายการทำกำไร
เนื่องจากค่อยๆขยับขึ้นเรื่อยๆและยืนเหนือเส้น EMA ทั้งสามเส้น และเป้าหมายกำไรในกรอบ TF H1ที่ไฮเดิมของกรอบเส้นเทรนไลน์
RSI เป็นขาขึ้น และเริ่มเข้าสู่โซน overbought ยังคงเน้นเก็บกำไรระยะสั้นแบบ Scalping รายวัน กำหนดจุดกำไร และตั้ง SL ระยะห่างไม่ไกลมากเพื่อป้องกันความเสี่ยง เน้นจบปิดกำไรรายวัน และอาจปิดเร็วขึ้น หากกำไรเป็นที่พอรับได้ โดยมีตั้งกำไร TP และตั้ง SL ไม่ไกลจากแนวรับแนวต้านเดิม ทั้งใน TF1H และ 4H และจะทำการล๊อคกำไรจาก TSL ด้วยระดับหนึ่ง
ประสบการณ์: เน้นการถืออออเดอร์โดยปิดจบรายวัน และเน้นเก็บกำไรแบบเป็นรอบสวิงเทรนไซด์เวย์ เพื่อเป็นการเพิ่มกระแสเงินสด แคชโฟร์ ในพอร์ต อาจมีการแบ่งปิดกำไรจากออเดอร์ที่กำไรในระดับหนึ่งแล้ว อาจมีการตั้ง TSL เพื่อเป็นการล๊อคกำไรได้ในอีกทางหนึ่งด้วย
เพื่อนๆคิดว่าตลาดตอนนี้ป็นขาขึ้น ( Bullish)หรือขาลง (Bearish)ครับ คอมเม้นท์ด้านล่างไว้ได้เลย !!!
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
แผนการเทรด XAU/USD 🌟(SMC HyBrid) 🌟 SetUp นี้เทรนหลักเป็นเทรนขาขึ้นอย่างชัดเจน ได้มีการ Bos สร้าง High ใหม่อย่างต่อเนื่อง
และมี Demand อยู่ 2 โซนที่น่าสนใจเพราะเป็น Demand ที่มีคุณภาพ มีแท่ง Imbalance ที่แข็งแกร่ง
และสามารถ BoS สร้าง High ใหม่ได้โดยใน SetUp นี้ เราจึงมองหาหน้า Buy เท่านั้น
สามารถ Buy Limit โดยไม่รอการยืนใน LTF ทั้ง 2 โซน หรือจะรอให้เกิดการ CHoCH ใน LTF แล้วจึงหา Demand ที่ก่อให้เกิดการ CHoCH ใน LTF เพื่อเป็นจุดเข้าออเดอร์
เหตุผลที่เข้า :
1. เทรนหลักเป็นเทรนขาขึ้น
2. มี Demand ที่ก่อให้เกิดการ BoS
3. มีแท่ง Imbalance ที่แข็งแกร่งทั้ง 2 โซน
4. ราคาอยู่ในโซน Discount ทั้ง 2 โซน
5. ตรงกับ Model : Basic Entry (SMC)
ความรู้สึกทางอารมณ์ : กังวลเล็กน้อยเพราะตั้ง Buy Limit ไว้ โดยที่ไม่รอการยืนยันใน LTF ทั้ง 2 โซน แต่ได้บริหารความเสี่ยงไว้เรียบร้อยแล้ว
การบริหารความเสี่ยง : โซนที่1 0.5% / โซนที่2 = 1%
XAUUSD มา update กำไรงามๆกันต่อ หลังจากที่ได้กำไรจุกๆ 50,000 จุดต่อจากไอเดียที่แล้ว XAUUSD ได้เป็นไปตามแผนกันเป๊ะๆเลย ทุกคลื่น จนทำให้หลายๆคนได้กำไรจุกๆกันไป 50,000 จุดเลยทีเดียว ไอเดียนี้จะเป็นการถอดรหัสคลื่นของอาทิตย์ก่อน
เริ่มแรก กราฟมีการปรับตัวเป็น คลื่น (4) สีน้ำเงิน คลื่นนี้จะเป็นคลื่นพักตัวของกราฟ เพื่อขึ้นไป คลื่น (5) น้ำเงินแบบแรงๆ
- ในคลื่น (4) สีน้ำเงิน มีการปรับตัวในรูปแบบ สามเหลี่ยม descending triangle ซึ่งมีขา a b c d e สีแดง
- พิเศษตรงนี้เป็นทริค ขา e สามารถ เป็นสามเหลี่ยมซ้อนได้อีกชั้น เรียกว่า extended triangle เราจะนับ เป็น (a) (b) (c) (d) (e) ได้อีก ทั้งหมดนี้คือขา e สีแดง ถือว่าปรับครบขา ในคลื่น (4) สีน้ำเงิน
และกราฟ ก็พุ่งขึ้นไปในคลื่น (5) น้ำเงินแบบแรงๆ
- คลื่น (5) น้ำเงิน จะต้องมี 5 คลื่นย่อยและเป็นรหัส 5
- และกราฟ ทำเป็นคลื่น 1 ย่อยสำเร็จแล้ว โดยคลื่น 1 ย่อยนั้น ได้ปรับตัวขึ้นแบบ impulse wave ตามคลื่นหมายเลข 1 2 3 4 5 สีฟ้า ซึ่งคลื่น 5 เป็น 5 failure ซึ่งหมายความว่า จะต้องมีการปรับตัวลงมาอย่างรุนแรง
ตอนนี้ ราคากำลังลงมาในคลื่นย่อยที่ 2 จะต้องเป็นรหัส 3 มีขา a,b,c
- ขา a จบไปแล้ว
- ขา b จบไปแล้ว
- กำลังทำ ขา c อยู่
จากสัดส่วนการปรับตัวลงมานั้น เป็นรูปแบบ zigzag จะต้องเป็นรหัส (5-3-5)
เจาะลึกไปที่ขา c ขา c จะต้องเป็นรหัส 5 เท่านั้น
- ดังนั้น ตอนนี้ที่ปรับตัวลงมา กราฟกำลังจะลงไปเจอ Extremly Demand zone เป็นจุดที่คนรอ buy กันเยอะ
- ดูจากการที่มีแท่ง pinbar หลายๆแท่ง แสดงถึงขาลงเริ่มหมดแรงแล้ว
ทำให้ผมคาดการณ์ว่า กราฟจะไปสิ้นสุดบริเวณ Extremly Demand zone พอดี และจะขึ้นต่ออย่างรุนแรงอีกรอบ
- ซึ่งรูปแบบที่เป็นไปได้ กราฟน่าจะทำรูปแบบ Rising wedge โดยจะเคลื่อนที่ไปตามลูกศร และรูปแบบ rising wedge นี้ถือว่า เป็นรหัส 5 ได้เช่นกัน เรียกว่ารูปแบบ ending diagonal นั่นเอง ซึ่งดูสมเหตุสมผลมากๆทีเดียว
- โดยกราฟจะเคลื่อนที่ไปตามรูปแบบตัวอักษร (a) (b) (c) (d) (e) ก็จะถือว่า ครบขา c นั่นเอง
เมื่อครบขา c กราฟจะขึ้นไปเป็นรหัส 5 อีกครั้ง
- เป้าผมยังคงมองเหมือนกราฟเดิมที่วิเคราะห์ไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว น่าจะไปถึง 2241
- ตอนนี้ผมมีรูปแบบในใจไว้แล้ว แต่ขอเห็นภาพชัดกว่านี้ในสัปดาห์หน้า
ปล. เป็นเพียงมุมมองการวิเคราะห์ส่วนตัว ไม่ได้ชี้แนะให้เทรดหรือลงทุนตามแต่อย่างใด
ปล2 ผมอาจจะไม่ได้มาอัปเดทให้สักพัก เพราะภรรยามีกำหนดคลอดในช่วงสัปดาห์นี้ ถึง สัปดาห์หน้า ถ้าหายไปไม่ได้ไปไหนนะครับ ไปดูแลเจ้าหญิงตัวน้อยก่อน
ถ้าชอบการวิเคราะห์แบบนี้ ฝากกดติดตาม กด boost เป็นกำลังใจได้นะครับ
- มีเพื่อนๆบางท่านอยากให้ผมทำเพจมาวิเคราะห์ให้แบบรายวัน ถ้ามีใครสนใจก็ comment ไว้ได้ครับ ถ้ามีคนสนใจเยอะๆ อาจจะทำเพจรายวันมาให้ครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นผมต้องซื้อ package ของ trading view แบบ premium ก่อน ไม่งั้นจะผิดกฎนะครับ เมื่อก่อนเคยผิดกฎแล้วโดนแบนไปจนไม่อยากแชร์ไอเดียเลย ยังไงขอบคุณทุกกำลังใจด้วยครับ
แผนการเทรด XAU/USD ( SMC HyBrid)🌟จดบันทึกการเทรด ครั้งที่ 4
Setup นี้ เทรนหลักยังคงเป็นเทรนขาขึ้น ราคาได้ย่อลงมาที่ Demand
และไม่สามารถทำ Low ใหม่ได้
หลังจากนั้นราคาได้เกิดการ ChoChทำลายโครงสร้างขาลงใน LTF ได้ เป็นการ Flip
เราจึงหาจุด Demand ที่ก่อให้เกิดการ ChoCh / Flip ในครั้งนี้ เพื่อเข้า Buy
ใน Sutup นี้มี Demand อยู่ 2 โซนใกล้ๆกัน สามารถเข้าเทรดแบบ Confirmatiom หรือ Aggressive ได้ทั้ง 2 โซน
เหตุผลที่เข้า
1. เทรนหลักเป็นเทรนขาขึ่้น และ ราคาได้เกิดการ Choch เป็นการเสียโครงสร้างขาลงใน LTF เรียบร้อยแล้ว
2. Demand 2 โซนนี้เป็น Demand ที่มีคุณภาพ ที่สามารถ Flip Supply ขึ้นมาได้
3. ราคาอยู่ในโซน Discount
4. ตรงกับ Model : Flip Entry ของระบบ SMC
การบริหารความเสี่ยง : 0.5%
ความรู้สึกทางอารมณ์ : ยังมีความกังวลเพราะ เข้าออเดอร์ Buy Limit โดยที่ไม่รอการยืนยันใน LTF แต่ใช้ความเสี่ยงแค่ 0.5 % เพื่อความปลอดภัย
ฝึกวิเคราะห์กราฟเพื่อหาจุดเข้าซื้อให้ละเอียดแม่นยำยิ่งขึ้น24/มีค/67
ตัวนี้ถ้ามองที่งบการเงินเขามีทรัพย์สินและส่วนกรรมการมากกว่าหนี้สินรวม
มีรายได้รวมเท่ากับหนี้บวกลบนิดหน่อยแสดงว่าถ้าเม่าซื้อตัวนี้ก็มีโอกาสที่จะ
ได้ปันผลเช่นปีนี้ก็มีกำไรสุทธิ500กว่าล้านด้วยคิดว่าซื้อได้แต่ใส้ในอันนี้ไม่รู้ว่า
บริษัทรับงานโครงการเป็นราคาเต็มจากประกาศประกวดราคาไหมนะครับ
ใครรู้ช่วยสืบให้หน่อยถ้าได้ราคาฟันมามันมีผลต่อการขาดทุนแบบงูกินหางได้
ในอนาคตเบิกงาน1ไปปิดงานสองเบิกงานสองมาปิดงานสาม4-5เบิก5ปิด1
หมุนวนกันไปเรื่อยๆสุดท้ายก็จะเป็นเหมือนอิตตาเลี่ยนไทย เพราะแต่ละ
โครงการมีรอบตั๋วAVALที่ครบกำหนดคืนแบงค์ไม่จ่ายก็เสียเครดิตเทอม
นั้นคือเรื่องการเงิน
สองเรื่องบุลคลากรถ้ามีปริมาณมากแต่ขาดคุณภาพให้รีบแก้ไขไม่งั้นจะต้อง
จ่ายเงินให้กับบุลคลากรด้อยคุณภาพไปเรื่อยๆ คนทำงานต้องรู้จักหน้าที่ตนอง
ต้องเป็นมืออาชีพ ต้องรักองค์กร จัดซื้อต้องหาราคาของให้ถูกจริงๆไม่แอบรับ
ค่าคอมแล้วไปนัดรับค่าคอมตามห้างตามโรงแรมที่พูดมาเดาเอาเพราะอย่างไร
มันก็ต้องมีเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว บริษัทต้องรักองค์กรด้วยอย่าคิดแต่จ่ายเงินเดือน
แล้วจบการให้โบนัสสำคัญทำให้ทีมตั้งใจทำงานเพื่อองค์กรแต่ทุกคนจะต้อง
รู้จักคำว่าพอเพียง คิดเรื่องค่าใช้จ่ายในครัวเรือนอยู่อย่างพอเพียงให้ได้ไม่งั้น
ก็จะสร้างหนี้แล้วจะเริ่มคอรัปชั่นในเวลาต่อมา ทุกคนต้องลดล่ะความสุขอะไร
บางอย่างลงเพื่อครอบครัวตนเองจะอยู่รอดได้ในสถานการณ์ที่เงินทองเริ่มหายาก
การสังสรร เลิกได้เลิกเลย คิดถึงลูกเมียสามีพ่อแม่เยอะ
จัดตั้งหน่วยตรวจสอบภายในบริษัท ใครทำผิดมีหลักฐานไล่ออกให้หมด
ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายต้องทำเพื่อไม่ให้เกิดเป็นเยี่ยงอย่าง การจับโจรต้องมี
หลักฐานสืบให้ชัดอย่าจับแพะมาลงโทษฯลฯ
เคครับมาดูกราฟกันสั้นๆ
ตอนนี้กราฟเดือนกพ67มีการกลับตัวได้แล้วนะครับเป็นแท่งใหญ่ยาวกิน
แนวต้านสำคัญได้สำเร็จมีโอกาสมากที่จะขึ้นไปที่ราคา12-14-16บาท
ถ้าปิดทะลุ16บาทได้ก็มีโอกาสไปที่ราคา20-27บาท
XAUUSD ย่อไปเก็บของ แล้วขึ้นต่ออย่างรุนแรงจากไอเดียเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ที่ผมให้ไว้ ว่า XAUUSD จะเริ่มย่อ เนื่องจาก ได้ขึ้นมาแบบ impulse จนได้ถึงเป้าของ fibo ที่น่าสนใจ และควรจะย่อ ซึ่งกราฟได้ย่อไปจริงๆ
- ทั้งสัปดาห์ที่แล้ว กราฟ เคลื่อนตัวในกรอบแคบๆ เป็นการพักตัว ซึ่งจากลักษณะคลื่น กราฟได้พักตัวในรูปแบบ descending triangle มีขา a,b,c,d และกำลังจะทำขา e เพื่อขึ้นต่ออย่างรุนแรง
- ในมุมมองของ elliote wave เมื่อทำขา e เสร็จกราฟจะพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง ตาม trend ที่ขึ้นมา
- แต่ตามหลักของ chart pattern ทั่วๆไป กราฟจะต้องเบรค low และลงต่อ ด้วยขนาด เท่ากับ ความยาวของสามเหลี่ยม
ดังนั้น
1. คนที่เทรดตาม elliote wave จะมารอ buy แถวเส้นแดง เพราะมี price structure รออยู่
2. คนที่เทรด ตามโครงสร้างราคา ก็จะมารอ buy ตรง price structure zone เช่นกัน
3. คนที่เทรด chart pattern จะวาง sell stop เมื่อหลุด low ของ price structure zone
แต่
- ในมุมมองของผม การที่กราฟทำ chart pattern แบบนี้ market maker เป็นการหลอกล่อให้รายย่อย เข้าเทรด sell เมื่อราคาหลุด low หรือ เทรด buy ตามที่ได้บอกไป
- ซึ่งเมื่อรายย่อย เทรด sell หรือ sell stop หรือ buy , buy limit แล้ว ย่อมกลายเป็น liquidity ให้กับรายใหญ่
- กราฟจะมีการหลุด low เพื่อ กิน SL ของฝั่ง buy
- และน่าจะวิ่งไปจนถึง demand zone ที่ผมตีไว้
- จะเห็นได้ว่า มี 2 demand zone ที่ยังไม่ได้ใช้ และ มี fvg รออยู่ ทั้ง 2 zone เลย และน่าสนใจทั้งคู่ด้วย
- ดังนั้น จึงมองว่า กราฟจะหลุด low ลงมาจริงๆ เพื่อไปเติมของ บริเวณ demand zone ด้านล่าง
2 zone นี้น่าสนใจยังไง
โซนแรก บริเวณราคา 2143-2132 นั้น มีสิ่งที่น่าสนใจดังนี้
1. เป็น flip zone ที่เปลี่ยนจาก resistance มาเป็น support zone
2. มีอัตราส่วนของ fibo ที่ผมมองว่า เป็นขั้นต่ำที่ควรลงมาถึง สำหรับการทำ wave4 คือ ที่ ระดับ 33.3%-38.2%
3. มี demand zone ที่เป็น buttom wick ของแท่ง 8h ที่เป็น unmitigated zone
4. มี imb ที่เป็น fvg ที่น่าสนใจ เหนือแนวรับ
5. เป็น demand zone ที่อยู่ใกล้ การ ทำ liquidity sweep จาก descending triangle pattern ด้วย
โซนสอง
1. มี demand zone ที่เป็น order block แบบชัดๆ ของแท่ง 8h และ 4h ด้วย ที่เป็น unmitigated zone
2. มี imb ที่เป็น fvg ที่น่าสนใจ เหนือแนวรับ
3. เนื่องจาก มี 2 demand zone ติดกัน demand zone แรก ส่วนใหญ่จะเป็น liquidity ให้กับ zone นี้
4. zone นี้ราคาถูกกว่า และใกล้ โซน 0.5 ของ fibo (แต่ยังไม่ถึงนะ) เลยไม่ค่อยให้น้ำหนักการ confluence กับ fibo เท่าไหร่
ดังนั้น focus ที่หน้า buy เท่านั้น อยู่ที่การเลือก zone ตามใจชอบ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น กราาฟอาจจะลงมาไม่ถึงก็ได้ อาจจะลงมาแค่ price structure zone สีน้ำเงิน แล้วมา sweep เพื่อทำ ifc แล้วขึ้นก็ได้ ดังนั้น focus buy ไว้ก่อน ถ้ากราฟยังไม่เสียโครงสร้าง
ป.ล. เป้าการขึ้น ยังคงยึดตาม idea ก่อนหน้า ไม่ต้องมีอะไรเปลี่ยนแปลง แค่มา update เพิ่มเติมแนวทางในสัปดาห์ถัดไปเท่านั้น
ป.ล.2 ขอบคุณทุกการสนับสนุนและการติดตาม ท่านใดที่ชื่นชอบก็ฝากคอมมนท์เป็นกำลังใจ หรือ กด boost ให้ก็ได้ครับ
ป.ล.3 ท่านใดที่อยากนำ idea ไปใช้ในกลุ่มต่างๆ จะดีมากถ้าฝากใส่ credit ให้นิดนึงครับ ขอบคุณครับ
ลิงค์ไป idea แรกครับ
VGI|วิเคราะห์คลื่นคอลเล็คชั่น ABC ถอดรหัสคลื่นอับเดทคลื่น correction ABC ล่าสุดด้วยภาพรายสัปดาห์ หลังจากทำราคาสูงสุดที่ 10 บ ปี 2019
คลื่น a ย่อรูปแบบอิมพัสเร็วและรุนแรงย่อตัวเมื่อช่วงโควิท 61.8%
คลื่น b รีบาวน์รูปแบบสามเหลี่ยมซับซ้อน 5 คลื่น ABCDE ที่ความยาว 61.8% ของคลื่น a วัดจากยอดคลื่น b.c
คลื่น c รูปแบบดาวน์เทรนแชนนัล 5 คลื่น รูปแบบไดกอนัลทแยงมุมสามเหลี่ยมฟอลลิ่งเวจ
c.1 ย่อที่ความยาว 38.2% ของคลื่น a อิมพัสสั้นๆ
c.2 รีบาวน์ที่ 61.8% ของคลื่น 1 วัดจากยอดคลื่น b.c
c.3 ความยาวเท่ากับ 161.8% ความยาวของคลื่น c.1
c.4 รีบาวน์ 50% ของคลื่น c.3
c.5 จุดสังเกตุ ราคาย่อมาที่แนวรับ 61.8% ของคลื่น a ที่คลื่น c.3 แล้วรีบาวน์คลื่น c.4
สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาย่อมาที่แนวรับ 100% ของคลื่น a ที่โซนเป้าหมาย 2 บ แล้วเริ่มมีแรงซื้อกลับอีกรอบ
และเป็นโซนราคาเป้าหมายคลื่น c.5 ที่ความยาว 161.8% ของคลื่น c.1
มีโอกาสแกว่งตัวสร้างฐานวอลุ่มเพื่อสะสมกำลัง เป้าหมายรีบาวน์ที่เส้น 50 สัปดาห์ที่โซน 2.5+ บ หากยืนได้จะเป็นสัญญาณกลับตัวแรก และเปลี่ยนแนวโน้มเป็นไซด์เวย์อัพ เป็นโอกาสเก็งกำไรระยะสั้น
RSI สัปดาห์มีสัญญาณ bullish divergence สนับสนุนการกลับตัว หากเบรคแนวต้านเส้น 50 สัปดาห์ แนวต้านถัดไปที่แนวต้านสามเหลี่ยมฟอลลิ่งเวจที่โซน 3 บ จะเป็นการยืนยันการกลับตัว
Bearish case: มีโอกาสที่คลื่น 4 จะปรับตัวเป็นรูปแบบสามเหลี่ยมซับซ้อนแบบขยาย
XAUUSD ขึ้นต่อแรง ยังไม่ย่อถึง 38.2% ห้าม sell สวนเด็ดขาดแม้ว่าราคาทองคำจะขึ้นมาถึงเป้า ที่ผมให้ไว้ตั้งแต่ อาทิตย์ที่แล้ว ยอมรับเลยว่า ขึ้นแรงมาก โดยไม่มีย่อเลย (ยอมรับว่าผิดคาดเพราะ ไอเดียก่อนผมคิดว่าจะย่อสักหน่อยก่อนขึ้นแรงๆ แต่ขึ้นไปเลย) จุดนี้คือ เป้าที่ให้ไว้พอดี ตรงเส้น trendline แบบ contracting triangle แต่ จากราคาที่ขึ้นแรง จึงคิดว่า ไม่ใช่ ending diagonal แล้ว
- ทำให้ คลื่นที่ขึ้นตอนนี้ เป็น คลื่น impulse wave แน่นอน ไม่สามารถเป็นคลื่นรูปแบบอื่นได้
- ขอสรุปภาพใหญ่ก่อน เป็นที่เข้าใจตรงกันว่า ทองคำ อยู่ในช่วง เวฟ 5 ใหญ่ ใน Tf month,week
- คลื่น 5 ใหญ่ จะเป็นรหัส 5 ซึงจะมี 5 คลื่นเล็ก
- ตอนนี้ จบไปแล้ว 2 คลื่นเล็ก ราคาตอนนี้ อยูที่คลื่นเล็กที่ 3 ใน tf day
- ซึ่ง คลื่นเล็กที่ 3 ของ tf day เป็นรหัส5 เช่นกัน ก็ต้องมี อีก 5 คลื่นย่อย
- ตอนนี้ คลื่นย่อย ราคาอยู่ที่คลื่นย่อยที่ 1 ใน tf8h
- ซึ่ง คลื่นย่อยที่ 1 ของ tf8h เป็นรหัส5 เช่นกัน ก็ต้องมี อีก 5 คลื่นย๊อยย่อย (55555 ไม่รู้จะเรียกว่าอะไร)
- ซึ่งคลื่นย๊อยย่อย จบไปแล้ว 2 คลื่น
- ราคาที่ขึ้นมาแรงๆ ตอนนี้ คือ คลื่นย๊อยย่อยที่ 3
- ดังนั้นปัจจุบัน เป็น คลื่นย๊อยย่อยที่ 3 ของคลื่นย่อยที่ 1 ของคลื่นเล็กที่ 3 ของคลื่นใหญ่ที่ 5 (งงอะดิ)
เขียนเองยัง งง เอง
- ซึ่งคลื่น 3 ส่วนมากจะเป็นคลื่นที่ยาวที่สุดแล้ว เมื่อเทียบกับคลื่นอื่นๆ และคลื่นย๊อยย่อยนี้เป็น 3 แบบขยาย (extension) และดันเป็น 3 แบบขยายเว่อร์
- ปกติ 3 ขยาย จะเป็นอัตราส่วน 1.618 ของคลื่น 1 หรือมากกว่านั้นนิดหน่อย แต่ถ้าขยายเยอะขนาดนี้ มีความเป็นไปได้สูงว่าจะขยายไปเรื่อยๆ จนกว่าจะหมดแรงซื้อ ดังนั้น ห้าม sell สวนเด็ดขาดทุกกรณี
- จากราคาตอนนี้ ตามอัตราส่วนคือ ขยายไปถึง 3.618 แล้ว และยังไม่ย่อถึง 38.2% ของคลื่นตัวเองเลย
- ดังนั้น คลื่นย๊อยย่อย 4 ของ impulse ยังไม่เกิดเลย
- และจาก สถิติส่วนใหญ่ หากเกิด 3 ขยายเว่อร์ คลื่น5 มักจะ failure หมายความว่า คลื่นย๊อยย่อย 5 อาจจะไม่สูงกว่าคลื่นย๊อยย่อย 3 นั่นเอง
ดังนั้น หากสังเกตดีๆ
- ตามอัตราส่วนของ fibo ต่างๆ ตั้งแต่ 1.27, 2 , 2.414, 2.618, 3, 3.414, 3.618 มีการย่อตัวตลอด
- เพราะสายวัดเป้า fibo ก็จะพยายาม sell สวน
- รวมไปถึง มี supply zone มารองรับอีก สาย demand supply ก็ sell สวนอีก
- บางคน ขนาดสาย confluene ก็ sell สวน
แต่ก็โดน Sl ไปตลอดทาง บางคน พอร์ตแตก พอร์ตระเบิดไปแล้วด้วยซ้ำ
ดังนั้น เมื่อกราฟ เฉลยแล้วว่า เป็น impulse คลื่น 3 จะขยายไปได้เรื่อยๆ
- ตรงจุดนี้ถามว่าขึ้นจบได้หรือยัง ตอบเลยว่ายัง
- แต่มีโอกาสย่อไปทำ wave4 ได้ไหม มีโอกาส เพราะ all time high ไปแล้ว ไม่มี แนวต้านแล้ว
- มีเพียงเป้า fibo เท่านั้น ที่เราจะวัดได้
- และดูจาก price action ของแท่งเทียน ระดับ 8h ค่อนข้างทิ้งไส้ แสดงว่า momentum ขาขึ้นลดลงแล้ว มีแรงเทขายมาค่อนข้างเยอะ อาจจะย่อไปทำ เวฟ 4 ย๊อยย่อยได้
- และเข้าสู่ wave 5 ย๊อยย่อย
ดังนั้น เป้าราคา
1. 2214 ที่ fibo 4.00 กรณีไปต่อ
2. 2261 ที่ trendline ขอบบนของขาขึ้น (ย่อแล้วไป ตามเส้นน้ำเงิน)
3. 2414 กรณีที่ทะลุ trendline ไปได้ เป้าราคาที่ fibo 1.27 ของ ขา 1 ย๊อยย่อย (ย่อไปตามเส้นแดง)
ภาพใหญ่ของ trend ขาขึ้น
XAUUSD Daily Analysis 29/2/2024 by TraderTanTrading note: XAUUSD / GOLD
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปรับตัวลดลงในการซื้อขายเมื่อวันพุธ (28 ก.พ.) เนื่องจากได้รับปัจจัยกดดันจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะลดความน่าดึงดูดของทอง โดยทำให้สัญญาทองมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
นักลงทุนจับตาดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ในวันนี้ (29 ก.พ.) เวลา 20.30 น. ตามเวลาไทย โดยดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ เนื่องจากสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
BUY : 2028
TP : 2048
SL : 2024
เหตุผลในการเข้าเทรด:
Trendline
จากกราฟแท่งเทียน ราคายังมีการไต่ขึ้นอย่างต่อเนื่องแม้จะวิ่งในรูปแบบสวิง เทรนไซด์เวย์ โดยขาขึ้นยังคงมีลุ้นในระยะยาวอยู่ แต่อาจมีการย่อลงเล็กน้อยก่อนไต่ขึ้นต่อ จึงทำการเข้า BUY โดยเน้นรูปแบบการทำกำไรแบบ scalping ในระยะสั้น และอาจมีการย่อลงก่อนแล้วขึ้นต่อได้ด้วย
RSI : เป็นกลางขาขึ้น เน้นทำกำไรตามกรอบเส้น BB และแนวรับแนวต้านเก่า เป็นตัวกำหนดจุดกำไร และตั้ง SL ระยะห่างไม่ไกลมากเพื่อป้องกันความเสี่ยง เน้นจบปิดกำไรรายวัน และอาจปิดเร็วขึ้น หากกำไรเป็นที่พอรับได้ โดยมีตั้งกำไร TP และตั้ง SL ไม่ไกลจากแนวรับแนวต้านเดิม ทั้งใน TF1H และ 4H และจะทำการล๊อคกำไรจาก TSL ด้วยระดับหนึ่ง
ประสบการณ์: เน้นการถืออออเดอร์โดยปิดจบรายวัน และเน้นเก็บกำไรแบบเป็นรอบสวิงเทรนไซด์เวย์ เพื่อเป็นการเพิ่มกระแสเงินสด แคชโฟร์ ในพอร์ต อาจมีการแบ่งปิดกำไรจากออเดอร์ที่กำไรในระดับหนึ่งแล้ว อาจมีการตั้ง TSL เพื่อเป็นการล๊อคกำไรได้ในอีกทางหนึ่งด้วย
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
บทเรียนการเทรด ตลอด 6 ปีครึ่ง ของเทพคอยน์แวะมาอัพเดทพอร์ตกันบ้าง ตามสไตล์เทรดเดอร์ที่โปร่งใส ไม่หมกเม็ด ผมจะเล่าเป็นปีๆ ไปแล้วกันนะครับ เพื่อความง่ายและกระชับ ไม่งั้นเล่ายาวเกินคนขี้เกียจอ่าน
🟢2017
* เริ่มเข้ามาเทรดคริปโตช่วงกลางปี หลังจากรู้จักมาตั้งแต่ปี 2015 แต่ก็ยังกล้าๆ กลัวๆ อยู่
* เข้ามาเทรดก็ตามสไตล์เม่า ได้กำไรง่ายๆ จากเหรียญขยะจนคิดว่า “โอ้โห ถ้าทำได้ขนาดนี้ สักพักก็ได้มากกว่าเงินเดือนอีกนะเนี่ย!” ว่าแล้วก็เลยจัดหนัก มีเท่าไหร่ ใส่เต็มเหนี่ยว
* เจอตลาดพักฐานช่วงปลายๆ ปี ดอยเหรียญขยะ พอร์ตหายไปกว่า -50% ทำอะไรไม่ถูกตามสไตล์เม่า หากูรูลอกโพยเหรียญไปเรื่อย ลงคลาสไปเรื่อยใครอวดกำไรก็ตามไปหมด
* คัทเหรียญที่ดอยมาเข้าเหรียญขยะตามโพยกูรู ได้อานิสงค์ bull run ช่วงปลายปี 2017 จนพอร์ตกลับมาฟื้นเป็น “เท่าทุน”
🟢2018
* ปีแห่งการเผาจริง ช่วงต้นปีก็ยังเชื่อกูรูว่าตลาดจะไปต่อ ก็ไปดอยเหรียญเต็มไปหมด ตอนนั้นใช้บอทของ อจ. ท่านหนึ่งด้วย ก็พาดอยเหรียญขยะยับๆ
* พอสักมีนาเริ่มเห็นท่าไม่ดี พอร์ตเริ่มกลับมาลบหนักเหมือนเดิม ก็เลย ตัดใจคัทเหรียญในบอททิ้งทั้งหมด แล้วมาเทรดมือแทน แต่ยิ่งเทรดก็ยิ่งเจ๊ง ยิ่งเทรดยิ่งจน
* เริ่มเขียนกลยุทธ ลองกลยุทธเทรดสั้นไปเรื่อย เอาไปใช้กับบอท ผล backtest โคตรดี เทรดจริงยับๆ
* ช่วงตลาดนิ่งๆ ช่วงปลายปี 2018 เริ่มทำกำไรยาก เลยใช้ leverage 20x กับเอาเงินใส่ไปเยอะ เพราะไปเชื่อวาทกรรมว่า ทุนขุด 6k ไม่ลงต่ำไปกว่านี้ และถ้า break สามเหลี่ยมนี้ก็จะขึ้นยาว
* แต่อนิจจา กลายเป็นว่ามัน break ลงแทน สรุปวันเดียวขาดทุนไปกว่า -80% จากที่เจ๊งๆ อยู่แล้วก็เจ๊งหนักกว่าเดิม เครียดมาก
* ปิดปีแบบอนาถ ได้ๆ สักพักก็คืนกำไร เทรดมั่วไปหมด แต่ก็ถือว่าเป็นปีที่ได้บทเรียนอะไรมาเยอะมากๆ
🟢2019
* เริ่มปีมาด้วยความเศร้าจากปีที่แล้ว มีแต่กูรูทำนายกันว่า BTC จะลงไป 1000$ บ้าง 800$ บ้าง 2000$ บ้าง แช่งกันไปดิ ( ตอนนั้น BTC แกว่งๆ อยู่ราวๆ 3200$-3800$
* เริ่มซึมซับความรู้ในการเทรดตามระบบ trend following จากปู่ Peter Brandt ที่ อจ.ที่เขียนบอทได้มอบหมายให้ผมแปลบทความลงห้อง VIP ให้ บอกเลยว่านี่คือจุดเปลี่ยนมุมมองของผมในการเทรดไปเลย
* เริ่มดูเทรนออก และทันขึ้นรถตอนกราฟ week เป็นขาขึ้นช่วง BTC ทะลุ 4500 มาได้
* เนื่องจากยังรีบอยากรวยเร็ว ทำให้ตอนนั้นไปใช้ leverage 5x แบบ all-in ทำให้แค่สองเดือน ที่ BTC ขึ้นจาก 5,000$ ไป 14,000$ พอร์ตโตขึ้นมาถึง +160%
* แต่ กำไรที่ได้มาจากโชค ไม่ใช่ความรู้ เราก็จะต้องคืนกลับไปให้ตลาดอยู่ดี… สุดท้ายช่วงที่ BTC ออกข้างไปเรื่อยๆ ในช่วงกลางปี 2019 ก็เริ่มคืนกำไรไปเรื่อยๆ
* พอเทรดเองไม่ได้กำไร ก็ไปเริ่มซนหาเครื่องมือมาช่วย ตอนนั้นเห็น อจ.ท่านหนึ่งแนะนำ scavenger bot เป็นบอทเทรดสองหน้าแบบสะสม position ไปทุกๆ 1 นาที แล้วจะสร้าง order ไปเรื่อยๆ เพื่อจะกิน maker fee ที่ Bitmex ช่วงแรกๆ ก็ได้กำไรคำเล็กๆ จากค่า fee มาเรื่อยๆ เพราะกราฟมันยังนิ่งๆ สะบัดแคบๆ
* พอกราฟหลุด 10k ลงมา 7k เท่านั้นแหละจ้า ความชิบหายบังเกิด ขาดทุนยับ เพราะบอทแม่งสะสม position ใหญ่มากๆ จนโดนลากแบบอย่างโหด ส่วนคำแนะนำของ อจ.ก็คือ ให้เติมสู้ไปเรื่อยๆ เดี๋ยวมันก็กลับมา ( อจ. เขาบอกให้เตรียม BTC เผื่อไว้สัก 2-3 BTC สำหรับหน้าที่โดนลาก เพื่อเติมไปสู้ )
* สุดท้ายก็ไม่ยอมเชื่อ และไม่เติม และคัทหนีออกมาก่อน ซึ่งก็คิดถูกแล้ว เพราะถ้าไม่คัทคงบ้าตายไปซะก่อน
* ยัง ยังไม่พอ ไปเชื่อเพื่อนที่ได้บอท martingale forex มาอีก ทรงเดียวกันกับบอทก่อนหน้าเด๊ะ แต่คิดว่า “มันคงลองมาแล้ว น่าจะเชื่อถือได้” ก็เลยโอนเงินไปลองใช้ดู .. สรุปก็โดนลากเหมือนกัน เจ๊งเหมือนกัน เด๊ะ แต่ดีหน่อยที่ไหวตัวทันก็เลยรีบคัทหนีออกมาก่อน แต่ก็เจ็บหนักอยู่ดี
* สรุปแล้ว ปีนี้ ที่ได้กำไรมาเยอะช่วงกลางปี แต่พอคิดว่า “กำไรมันอยู่เฉยๆ ก็เสียดาย เราต้องเอาไปต่อยอดสิ” แล้วก็ไปใช้บอทบ้าๆ บอๆ สุดท้ายก็เจ๊ง ก็เลยได้บทเรียนว่า “ไอ้สัส มึงได้กำไรมึงก็นั่งเฉยๆ ก็พอแล้ว” สรุปปีนั้นก็เลยขาดทุนยับๆ อยู่ดี ….. แต่ก็ได้บทเรียนที่ล้ำค่ามาเหมือนกัน
🟢2020
* หลังจากไปเรียนรู้แบบจุกจริงเจ็บจริงมาสองปี จนแทบเป็นบ้าแต่ก็ยังไม่เป็น ทำให้ปี 2020 เป็นปีที่เอาบทเรียนจากสองปีก่อนหน้ามาสร้าง “สิ่งที่ไม่ควรทำ เพราะถ้าทำแล้วจะเสียตัง” เต็มไปหมด
* ตอนนั้นก็เลิกเทรดสั้นทั้งหมด เน้น TF Daily และทดลองระบบ Trend Following และนำมาใช้ แต่ดันไป over use มันเกิน เอามาใส่ในกราฟ 12 ระบบ ต้องรอมัน confirm 8 ระบบถึงจะเริ่มซื้อ กว่าจะได้ซื้อกราฟก็ไปหวันแล้ว
* แต่ข้อดี มันก็ยังมี เพราะหลังจากนั้น BTC เองก็เริ่มออกข้างซึมๆ ในช่วง Feb ก่อน covid dump จะมา ทำให้ทุกระบบมีสัญญาณ “ขาย” ออกทั้งหมด เพราะเราก็เชื่อระบบก็ขาย+ลดความเสี่ยงทั้งหมด ทำให้ตอน covid ก็รอดตายมาได้แบบสบายๆ
* ช่วงนั้นกูรูก็ออกมาฟันธงกันไปต่างๆ นาๆ ว่า ลงไม่ลึกหรอก ลงแค่ 8000 เดี๋ยวก็เด้งขึ้นเวฟ 1-2 หญ่ายยยย ขึ้นสู้งงงงงง หลายๆ คนไปเชื่อก็ไปซัดจัดหนักจัดเต็มกันแถวๆ โซน 8000 สุดท้ายมันก็รูดคืนเดียวลงไปถึง 3000 ใช้ leverage น้อยที่สุดก็ยังพอร์ตแตก … แต่ผมรอด + ได้กำไรมาด้วย เพราะซื้อ put option ทิ้งเอาไว้ 555
* หลังจากนั้น ก็เชื่อในระบบมาตลอด แต่ก็ปรับ fine tune มันอีกรอบ เพราะว่า ตอนที่ใช้ 8 ระบบ confirm มันช้าไป ก็ปรับเหลือแค่ 4 ระบบ และแยกไม้กันเข้าไปแทน ไม่รอเข้าพร้อมกันหมด และก็ใช้ 4 ระบบที่ว่า มาจนถึง ปัจจุบันนี้
* ความตลกร้ายของตลาดก็คือ ช่วงปลายปี 2020 กูรูก็ออกมาฟันธงกันเต็มไปหมดว่า ปี 2021 ตลาดจะพัง เกิดวิกฤตเหมือนตอน subprime ตลาดลงยับๆ หลายๆ คนก็ไม่กล้าซื้อกัน แต่ตอนนั้นระบบที่ผมใช้ มันก็เขียวแล้วไง ผมก็ไม่สนคำทำนายกูรู เราก็เข้าตามระบบไป.. ทำให้พอจบปี ก็ปิดบวกมาได้แบบชิวๆ
🟢2021
* ปีนี้แม้แต่ลิงก็ยังเป็นเซียนได้ สำหรับผม กำไรแค่นี้มันก็ไม่ได้มากเท่าไหร่ ถ้าเทียบกับพวกที่ไปเล่น DeFi, GameFi, NFT จนเปลี่ยนเงิน หกหลัก เป็น แปดหลัก แล้วก็โม้กันจนเต็มเฟส, youtube และ tiktok
* แต่ก็นั่นแหละ งานเลี้ยง ย่อมมีวันเลิกรา ผมที่ผ่านตลาดนรกช่วงปี 2018+2019 มาแล้ว ก็ได้บทเรียนชั้นดีมาว่า “ถ้าระบบบอกให้เราขาย เราก็ต้องขาย มาถือเงินสด จบนะ”
* ทำให้ช่วงตลาดลงจาก 65k มา 30k ตอนกลางปี… ผมก็รอดมาได้ และตอนตลาดเริ่มเสียทรงขาขึ้นตอนปลายปี … ผมก็รอดมาได้อีกอยู่ดี ทำให้สิ้นปี ปิดจ๊อบไปได้แบบเกินคาดอย่างมาก
* ปีนี้ผมโดนแขวน+ทัวร์ลงหนักมาก เพราะไปเตือนลงเพจเกี่ยวกับ DeFi ทำให้หลายๆ คนไม่พอใจ แล้วแคปไปด่ากันอย่างสนุกสนานในกลุ่มแชท ทำให้ผมได้บทเรียนมาเช่นเดียวกันว่า เออ ช่างแม่งเหอะ ใครจะทำไรก็ปล่อยมันทำไป เจ๊งก็เรื่องของมัน เพราะเงินมัน ไม่ใช่เงินเรา เราก็เตือนครั้งเดียวพอ สุดท้ายพอ GameFi, NFT มา ผมก็เลยขี้เกียจจะไปเตือนไรมาก … สุดท้าย ทุกตัว มันก็เจ๊งตามที่ผมได้เคยเตือนๆ ไว้
🟢2022
* ปีนี้เป็นปีที่โหดสัสสำหรับทุกตลาด เพราะคริปโตก็ลง หุ้นเมกาก็ลง หุ้นจีนก็ลง หุ้นไทยก็ลง หุ้นเวียดนามก็ลง คือลงกันหมด แต่มีอย่างเดียวที่ขึ้น คือ “USDTHB”
* ช่วงนั้นผมก็มีการแบ่งเงินบางส่วนไปเทรด USDT/THB ที่ bitkub โดยใช้หลักการ trend following ตามที่ผมใช้ๆ มาอยู่นี่แหละ สุดท้ายก็เลยพอทำกำไรมาช่วยจุนเจือพอร์ตคริปโต ที่พอร์ตนั้นปิดปีขาดทุนไปประมาณ -6% เพราะเข้าตามระบบ แล้วโดนสับขาหลอกตลอด
* มีจังหวะรอดตายหวุดหวิดคือ คืนที่ FTX เปิดวอร์กับ CZ ผมเห็นทรงแล้วดูไม่ดีเลยรีบโอนเงินออก รออยู่สองชั่วโมงกว่าจะได้เงินคืน ตอนรอนี่เหงื่อออกตูด เป็นสองชั่วโมงที่นานมากๆ ในชีวิต เพราะตอนนั้นเอาเงินไปฝากกินดอกที่ FTX แทบจะทั้งหมดของพอร์ตเลยก็ว่าได้ ถ้าช้ากว่านั้นอีกนิดเดียว ก็คงหมดตัว ไม่ได้มาโม้ตามโพสนี้ 5555
* อีกช๊อตที่รอดตายคือ ตอนแรกก็เอาเงินไป lock ไว้ที่ zipmex แล้วพอเริ่มเห็นว่า rate มันไม่ดี พอ unlock ได้ก็ถอนออกมาหมด ทำให้ไม่มีเงินใน zipmex เลยก่อนที่มันจะล้ม ซึ่ง.. จริงๆ ก่อนหน้านั้นเคยวางแผนว่าจะเอาไปฝากไว้ที่นั่นยาวๆ เพราะ “เป็น exchange ที่ กลต. รับรอง” .. สุดท้าย ก็เป็นอย่างที่เห็น
* เกร็ดความรู้ : ปีนี้ พวกที่เปลี่ยนเงินหกหลักเป็นแปดหลัก สุดท้ายก็กลับมาเหลือหกหลักเหมือนเดิม บางคนก็กลายเป็นศูนย์ เพราะหมดไปกับ FTX, Zipmex, Anchor ฯลฯ ก็เป็นอีกหนึ่งบทเรียนอันเจ็บปวดของหลายๆ คน… ก็เรียนรู้กันไปครับ เหมือนที่ผมเคยเจอมาก่อนตอนช่วง 2018-2019 เจอก่อนเจ็บก่อนรอดก่อน
🟢2023
* ปีนี้ สำหรับคริปโต เปิดปีมาก็ซิ่งเลย เพราะ BTC ขึ้นจาก 15k ไป 30k ช่วงต้นปี ผมเองที่ทำตามระบบ ก็แน่นอน ได้ขึ้นรถเก็บกำไรอิ่มๆ กันไป
* แต่หลายๆ คน ที่ พยายามจะลองทำตามระบบ แล้วเจอสับขาหลอกรัวๆ ตอนปี 2022 ก็ออกมาถ่มถุยระบบที่ผมใช้ว่า “เฮอะ เดี๋ยวก็หลอกเหมือนทุกทีน่ะแหล๊ะ” สุดท้าย ก็ไม่ได้เข้า ตอนระบบบอกให้ซื้อ แล้วก็ได้แต่ตกรถ กันไปแบบเซ็งๆ
* ส่วนกลางปี พอ BTC พักตัว ผมก็ทำตามระบบไปโง่ๆ เหมือนเช่นเดิม แต่พอร์ตก็นิ่งและไม่ไปไหนอยู่หลายเดือนมากๆ แถมหดด้วย เพราะเจอ false sig ไปบ่อย จนคนที่มาลองทำตามระบบหลังจากเห็นผมอวดกำไรช่วงต้นปี ออกมาถ่มถุยว่า ระบบแม่งโคตรกาก มีแต่สัญญาณหลอก
* พอปลายปี ระบบเขียวอีกรอบ หลายๆ คนก็ยังออกมาถ่มถุยเหมือนเดิมว่า “เฮอะ เดี๋ยวก็หลอกเหมือนทุกทีน่ะแหล๊ะ” สุดท้าย มันก็ไปจริง หลายๆ คนก็ตกรถกันเป็นแถบ เรื่องนี้มันก็ให้บทเรียนกับผมได้เหมือนกันว่า ถ้าเราเชื่อมั่นในระบบ ก็ทำต่อไปเถอะ ยิ่งจังหวะตอนที่เราไม่อยากจะเข้า เพราะมันสับขาหลอกบ่อยๆ … ยิ่งต้องกล้าเข้า เพราะ ถ้ามันไปต่อ แล้วเราไม่เข้า เราจะเซ็งยิ่งกว่าเยอะ
* หลายๆ คนอาจจะงงว่า เอ๊ะ แอด BTC ขึ้นมาตั้ง 160% ทำไมแอดได้กำไรแค่ 20% เองอ่ะ น้อยจัง ที่มันน้อยเพราะยอดนี้มันคือพอร์ตรวมของสองพอร์ต นั่นคือ พอร์ตหุ้นเมกา ด้วยครับ ซึ่งกำไรที่ผมได้จริงๆ จากการทำตามระบบก็คือ ประมาณ 35% ที่ความเสี่ยง 4% โดย Benchmark ของการทำตามระบบแบบเป๊ะๆ ที่ผมทำเป็น paper trade ไว้ อยู่ที่ 56% ครับ ที่ความเสี่ยง 4%
* สำหรับผม ถ้ามอง Risk:Reward กำไร 35% ที่ความเสี่ยง 4% ก็ตกอยู่ที่ 8.75RR ซึ่งผมก็ happy กับผลการเทรดมากๆ แล้วนะ
* ส่วนพอร์ตหุ้นเมกา ยอมรับว่า มั่ว และป๊อด ไปช่วงนึง ทำให้แทนที่จะได้กำไรสัก 30% แต่ก็ได้มาจริงแค่ 5% เพราะไปเข้าๆ ออกๆ และเจอค่าเงิน USDTHB อ่อนหนักนั่นเองครับ
🟢สิ่งที่ผมได้เรียนรู้มาตลอด 6 ปี ครึ่ง
* ยิ่งอยากได้กำไรเร็ว ยิ่งเจ๊ง อันนี้โคตรจริง เพราะพอเราอยากรีบทำกำไร เราจะเลิกคิดถึงความเสี่ยง และไอ้ความเสี่ยงนี่แหละมันจะทำให้พอร์ตพังยับ ถ้าตลาดไม่เป็นอย่างที่เราคิด
* ช่างแม่งเยอะๆ ใครบ่นอะไรไม่เข้าหูก็บล๊อกแม่งให้หมด เพราะ 100 คน 100 ความเห็น อะไรที่มันทำให้ใจเราขุ่นมัวก็ปิดการรับรู้มันไปซะ
* นึกถึงความเสี่ยงให้รอบด้าน ก่อนลงทุนทำอะไรเสมอ ถ้ามันดูแล้วคุ้มต่อความเสี่ยงก็ทำไปเลย อย่ากลัวเกินจนไม่กล้าทำอะไรเลย
* กูรูคนไหนชอบทำนายอนาคต อย่าไปให้ราคาเยอะ ฟังขำๆ พอ เพราะผมอยู่มา 6 ปี ครึ่ง กูรูนักทำนายพวกนี้ทำนายผิดกันไปไม่รู้กี่รอบ สักพักก็ออกมาทำนายใหม่คนก็มาชาบูกันต่อ
* ตลาดเป็น cycle เสมอ ตอนตลาดดีๆ กูรูเต็มตลาด กาวหึ่ง ก็ต้องระวังตัวอย่าไป FOMO มาก เพราะโอกาสจบรอบมีตลอดเวลา รวมถึง ตอนตลาดแย่ๆ ข่าวแย่เต็มไปหมด กูรูแช่งเต็มสื่อ ก็ต้องอย่าไปกลัวมาก มีระบบมาคุมอีกที กราฟบอกให้ซื้อก็ต้องเข้าซื้อ เพราะฟ้าหลังฝนสวยงามเสมอ
* และอื่นๆ อีกมากมาย ลองไปไล่อ่านโพสเก่าๆ ของผมได้ครับ
XAUUSD กลับไปใช้แผนแรก ลงเป็น channal เทรด sideway down- เนื่องจากไอเดียที่มองว่าเป็น สามเหลี่ยมได้ถูกทำลายไป โดยมีแท่งแดงทุบลงมาอย่างรุนแรง หลุดแนวรับ
- ทำให้เสียโครงสร้างแบบสามเหลี่ยม
ปัจจุบัน คลื่นทั้งหมด (A B C สีน้ำเงิน) ปรับตัวเป็นรูปแบบ Flat (weak Flat)
- สามารทำราคาลงไปถึงราคาที่ 1928.84 ได้เลย
และคลื่น (A) (B) (C) สีแดง ปรับตัวเป็นรูปแบบ Flat เช่นกัน (weak Flat)
- เป้าของ (A) (B) (C) สีแดง อยู่ที่ 132.8% ที่ราคา 1978.00
- ดังนั้น ราคาจะต้องลงมาไม่เกินที่จุดนี้แล้วต้องเด้งขึ้น
- เมื่อขึ้นแล้วจะเป็น ขา x
แล้วลงต่อ เพื่อทำ double corrections ในรูป small x wave เพื่อจบเทรน C ใหญ่สีน้ำเงิน
- สามารถลงมาทำเป็น flat x zigzag ได้ (แต่ x ที่ขึ้นไปต้องสูง) แบบเส้นที่แดง
- หรือ ทำเป็น flat x flat ก็ได้ (x ไม่ต้องสูงมาก) แบบเส้นสีน้ำเงิน
แนวทาง buy ที่ demand zone TP ที่ Supply Zone
sell ที่ supply zone TP ที่ Demand zone ตามกรอบ
ไอเดียแรกเริ่ม
คู่ EUR/USD ดีดตัวขึ้นและยึดติดที่ 1.0700 จากความเห็น FEDคู่ EUR/USD ดีดตัวขึ้นและยึดติดที่ 1.0700 จากความเห็นเชิงผ่อนคลายของ Fed
EUR/USD เพิ่มขึ้นจากการลดลงของผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐและความเห็นของประธาน Fed ชิคาโก กูลส์บี
ดัชนีราคาผู้ผลิตของสหรัฐชี้การดำเนินการลดเงินเฟ้อต่อเนื่อง
ยูโรโซนหลีกเลี่ยงภาวะถดถอยใน Q4 2023; ติดตามคำปราศรัยของลาการ์ด
EUR/USD เพิ่มขึ้นในช่วงเซสชันของอเมริกาเหนือ บันทึกกำไร 0.08% จากการลดลงของผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐหลังจากรายงานเงินเฟ้อของสหรัฐเมื่อวันอังคาร นอกจากนี้ ข้อมูลยูโรโซนที่ดีกว่าคาดยังสนับสนุนการพุ่งขึ้นไปที่ระดับสูงสุดของวันที่ 1.0719 ณ เวลานี้ คู่สกุลเงินซื้อขายที่ 1.0716
เงินเฟ้อของสหรัฐชะลอตัวแต่ยังอยู่เหนือเป้าหมาย 2% ของ Fed
สำนักงานสถิติแรงงานของสหรัฐเปิดเผยว่าเงินเฟ้อยังคงอยู่เหนือเกณฑ์ 3% ทั้งในด้านเงินเฟ้อหลักและเงินเฟ้อรวม ล่าสุด สำนักงานเปิดเผยว่าราคาที่ผู้ผลิตจ่าย – หรือที่รู้จักกันว่า PPI – ลดลงเป็น -0.2% ซึ่งเกินกว่าการลดลงในเดือนพฤศจิกายน ดัชนี PPI หลักอยู่ที่ -0.1% ทั้งสองตัวเลขนี้บนฐานรายเดือน ชี้ว่าเงินเฟ้อจริงๆ กำลังเย็นลง
นอกจากนี้ ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ลดลงยังกดดันเงินดอลลาร์ ดัชนีเงินดอลลาร์สหรัฐ (DXY) ซึ่งติดตามสกุลเงินต่อหกสกุลเงินอื่น ลดลง 0.02% สู่ 104.84
ณ เวลานี้ ประธาน Fed ชิคาโก ออสตัน กูลส์บี ระบุว่าหากเงินเฟ้อสูงกว่าเล็กน้อยในเดือนต่อๆ ไป จะสอดคล้องกับเส้นทางของเรา (Fed) กลับสู่เป้าหมาย กูลส์บี เน้นย้ำท่าทีในการผ่อนคลายนโยบายแม้เงินเฟ้อไม่อยู่ในเกณฑ์ 2% ในตัวเลขรายปี
ข้ามมาที่ยุโรป ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของยูโรโซนอยู่ที่ 0% ในไตรมาสที่ 4 บนฐานรายไตรมาส ในขณะที่เทียบกับปี 2022 เติบโตขึ้น 0.1% แม้ว่าเยอรมนี เศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของกลุ่ม จะหดตัว -0.3% QoQ
ในช่วงเซสชันของยุโรป รองประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) หลุยส์ เดอ กินดอส แสดงความเห็นว่าข้อมูลที่เข้ามาบ่งชี้ถึงความอ่อนแอทางเศรษฐกิจในระยะใกล้ และเน้นย้ำว่ากระบวนการลดเงินเฟ้อยังคงดำเนินต่อไป
การวิเคราะห์ราคา EUR/USD: มุมมองทางเทคนิค
คู่สกุลเงินมีแนวโน้มลงแม้จะมีสัญญาณว่าอาจจะหาจุดต่ำสุดที่ระดับ 1.0690s-1.0700 อย่างไรก็ตาม ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ (RSI) ชี้ว่าหมีมีความเป็นเจ้า และการซื้อขาย EUR/USD อยู่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่รายวัน (DMAs) กล่าวคือ แนวรับสำคัญแรกจะอยู่ที่ 1.0700 ตามด้วยจุดต่ำสุดวันที่ 14 กุมภาพันธ์ที่ 1.0694 หากทะลุผ่านทั้งสองระดับนี้ จุดหยุดถัดไปจะเป็นแนวรับระหว่างกลางที่จุดต่ำสุดวันที่ 10 พฤศจิกายนที่ 1.0656 ในทางกลับกัน หากผู้ซื้อยึดคืนพื้นที่ 1.0750 พวกเขาสามารถท้าทายแนวต้านเทรนด์ไลน์ที่ผ่านรอบๆ พื้นที่ 1.0755/70
เเผนเทรด Harmonic สัปดาห์ที่เเล้วHarmonic Pattern คืออะไร? อธิบายง่ายๆ สำหรับมือใหม่ Forex
Harmonic pattern เป็นหนึ่งในรูปแบบกราฟเทรดที่มีความซับซ้อนเพิ่มมากขึ้น โดยอาศัยระดับ Fibonacci และพฤติกรรมราคาที่มีความเชื่อมโยงรูปแบบเรขาคณิตเข้ามาเกี่ยวข้อง เราเรียกรูปแบบนี้ว่า harmonic pattern ตามชื่อของ Harold McKinley Gartley ผู้ที่คิดค้นทฤษฎีนี้ขึ้นมาครั้งแรกในปี 1932 โดยเขาได้เขียนอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับแพทเทิร์นดังกล่าวในหนังสือของเขาซึ่งเป็นหนึ่งในหนังสือเกี่ยวกับการเทรดที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เหตุผลที่เทรดเดอร์ควรใช้เครื่องมือที่มีความซับซ้อนนี้ เนื่องจากว่ามันสามารถใช้เพื่อระบุ PRZ (Potential Reverse Zone) เพื่อขยายโอกาสในการทำกำไร ลดความเสี่ยงจากการขาดทุน และเป็นจังหวะที่เหมาะสมสำหรับการเปิดออเดอร์นั่นเองครับ ตามที่เราได้กล่าวไปข้างต้นว่ากลยุทธ์นี้จะใช้ตัวเลข Fibonacci และแพทเทิร์นทางเรขาคณิตต่างๆ ในการคาดการณ์จุดที่ราคาอาจเกิดการเปลี่ยนแปลง (Price Turning Point)
BTCUSDT : ระบบ BreakHigh มีสัญญาณ "ซื้อ" 10/2/2024ระบบ BreakHigh เป็นระบบที่จะมาช้าที่สุดในระบบที่ผมใช้อยู่ เพราะต้องการใส่ไว้เพื่อเป็นการ confirm trend ขาขึ้นระยะยาว และเป็นการออกไม้สุดท้าย ของระบบที่ใช้อยู่ครับ
โดยตอนนี้ระบบนี้ก็ได้บอกให้ "ซื้อ" อีกรอบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ( แบบปิดพอดีเส้นเป๊ะๆ ด้วยนะ 555 ) เราก็หลับตาจัดไปครับ ตามรายละเอียด
BTC BreakHigh = เขียว ( 10/2/2024 )
------------------
Entry : 47300+-
SL : 43900+- ( -7%+- )
Position Size = 14% ของพอร์ต ( Risk1% )
รอบนี้ผมก็ยอมรับว่า BTC ลากขึ้นมาด้วยพฤติกรรมแปลกๆ คือไม่กี่วันลากมา high เดิมจากที่แช่ๆ มา ส่วนตัวก็ยังดีที่มีไม้ก่อนหน้าของสองระบบที่ทุนค่อนข้างต่ำ ทำให้ไม่ค่อยซีเรียสเท่าไหร่ในการออกไม้นี้
แต่ก็กันไว้ดีกว่าแก้ ก็เลยทำการลด position size ที่จะเข้าจริง เหลือแค่ 7% ของพอร์ตเท่านั้นครับ ทำให้ไม้จริงที่ผมออกก็คือ 20% + 12.3% + 7.7% รวมกันแล้วก็เป็น 40% ของพอร์ตนั่นเอง
แต่ถ้าใครจะเทรดตามนี้เป๊ะๆ ก็น่าจะมีของอยู่ประมาณ 48% ของพอร์ต ที่ราคาเฉลี่ย 44,500 นั่นเองครับ
รายละเอียดของไม้อื่นๆ
BTC Action Zone = เขียว ( 4/2/2024 )
------------------
Entry : 43000+-
SL : 41250+- ( -4%+- )
Position Size = 20% ของพอร์ต ( Risk1% )
BTC ATR = เขียว ( 8/2/2024 )
------------------
Entry : 44350+-
SL : 41350+- ( -7%+- )
Position Size = 14% ของพอร์ต ( Risk1% )