เป็นกรณีพิเศษที่ดีเกี่ยวกับ การสะสมหุ้นเพื่อ sell on factก่อนที่จะมีการขายซื้อขายหุ้นที่ดุเดือดราคาแกว่งแรงในวันนี้ (เนื่องจากรับข่าวดีที่งบโต ที่ประกาศวันศุกร์ที่แล้ว) มีการซื้อสะสมมาก่อน อาจจะเป็นวีไอ ที่ทำการบ้านมาอย่างดี และพบว่ามี upside น่าเก็งกำไร จึงซื้อเรื่อยมา จนกระทั่งวันนี้ ที่มีแรงซื้อเข้ามารับข่าวดีงบโต คนที่เก็บหุ้นมาก่อนหน้านี้ซึ่งได้ทุนต่ำก็ ชิงจังหวะขายออก sell on fact ทันที กำไร 10-30% ภายในเวลาไม่กี่วัน ถือเป็นการเก็งกำไรที่ยอดเยี่ยม
ไอเดียชุมชน
Set ทำ new low แต่อย่าด่วนสรุปว่าตลาดหุ้นไทยแย่ช่วงนี้ถือเป็นโอกาสที่ดีในการหาหุ้นผู้นำตลาดและจับจังหวะเทรด เพราะมันอาจจะเป็นการลงครั้งท้ายๆของดัชนีแล้วก็ได้
ที่ผมตั้งข้อสังเกตแบบนี้เพราะว่าเห็นหุ้นที่ทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบปีจำนวนไม่น้อยและมาเป็นกลุ่ม ที่สำคัญคือแม้ว่าดัชนีจะทำจุดต่ำสุดใหม่แต่หุ้นผู้นำก็ยังคงยืนในโซนจุดสูงสุดที่มันขึ้นมาได้อย่างแข็งแกร่ง
ถึงตอนนั้นนี่เป็นเพียงแค่ความเห็นเท่านั้น ความเห็นไม่มีทางเอาชนะความจริงได้ ดังนั้นทุกการเทรดที่ผมเข้าในช่วงนี้ผมจะให้ระดับตัดขาดทุนที่แคบมากๆเผื่อผิดทางจะได้เสียหายน้อยเอาไว้ก่อน
ฝึกอ่านกราฟตัวนี้ก็วิเคราะห์จากทางเฟรมที่เราวิเคราะห์ภาพรวมใหญ่ก่อนหน้านี้แล้วก็บีบกรอบให้มันเล็กลงหาจุดเช่าให้มันเล็กลงแค่นั้นเองอย่างที่บอกนะครับว่ามันสามารถซื้อได้ทั้งบ่ายและก็เซลล์ล่ะครับมันขึ้นอยู่กับมุมมองของเราว่าเราจะเข้าเทรดแบบไหนถ้าเราเข้าเทรดในทำเฟรมที่เล็กอ่ะบางทีมันอาจจะไม่ใช้ side way มันอาจจะเป็นเทรนด์อาจจะเป็นเทรนด์ขาขึ้นอาจจะเป็นเทรนด์ขาลงแล้วรูปแบบของแท่งเทียนขาขึ้นขาลงจะต้องทำ price action อะไร indicator จะบอกเราแบบไหนทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับการเลือก time frame แต่ทุกๆทางเฟรมมันจะไปเป็นส่วนหนึ่งของอีกทางเฟรมใหญ่ๆเพราะฉะนั้นถ้าเราหลงประเด็นมากเกินจนมันไปชนจุดสำคัญของทำเป็นใหญ่ๆมันอาจจะบีบตัวกลับมันก็คือการปรับตัวในทำเฟรมที่เล็กๆ
ฝึกอ่านกราฟตัวนี้ก็เป็นการวิเคราะห์แบบเดิมๆคล้ายๆกับที่เคยวิเคราะห์ก่อนหน้านี้ในคู่เงินอื่นๆในรูปแบบเดิมๆมุมมองแต่ละมุมมองมันสามารถขีดเขียนอะไรได้ตามที่ตาเห็นเลยไม่มีผิดไม่มีถูกสิ่งที่สำคัญคือมันจะมองหาจุดเข้ายังไงนั่นคือสิ่งที่เราจะต้องเขียนภาพขีดเขียนลงไปดักทางกราฟแล้วก็ดูพฤติกรรมมัน ตัวอย่างที่ลองเขียนดูนี้ลูกศรด้านขวาข้างบนข้างล่างผมลองทดลองตีสูงต่ำเป็นกรอบสี่เหลี่ยมให้ดูอย่างที่เห็นนี่แหละแล้วมองดูราคากราฟที่มันวิ่งอยู่ตรงกลางอย่างนี้แล้วสังเกตดูกราฟมันยกตัวขึ้นมันบีบตัวลงมันทำอะไรให้ราคาบายและเซลล์ที่แคบลงทำให้เราได้ราคาที่ไม่ดีแต่เราสามารถซื้อขายได้นะในกรอบอย่างที่เห็นคือมันบังคับทั้งเป็นเทรนขาลงบังคับเป็นเทรนขาขึ้นมันทำได้ทั้ง 2 ทางเลยฉะนั้นผู้ที่จะเทรดในกรอบตรงนี้ก็คือเทรดได้ทั้งบายและก็เซลล์ไม่มีผิดไม่มีถูกแต่ขึ้นอยู่กับ indicator ที่เราเอามาใส่หรือว่าเราจะอ่านค่ามันยังไงเหมือนเดิมครับเราจะมองค่าซึ่งตรงข้ามกับเจ้าตลาดเขาเซ็ตค่าเอาไว้ให้หรือจะมองค่าของ indicator เป็นฝั่งตรงข้ามกับเจ้าตลาดเราก็ต้องมองดูว่าเราจะเข้าแบบไหนไม่ให้เขาหลอกเราคือเขามีเครื่องมือให้เราอ่ะดีแต่ก็ต้องระวังโดนเขาหลอกใช่ไหมแต่ในที่นี้เรากำลังจะมองแค่ว่าเราจะเอาเครื่องมือเขามาใช้โดยที่ไม่ให้เขาหรอกอย่างไรนั่นคืออะไรครับการสร้างรูปแบบของตัวเองครับการบันทึกของตัวเองครับแท่งเทียนเป็นพฤติกรรมยังไงควรจะต้องเข้าตอนไหนรูปแบบของกราฟเป็นเทรนอย่างไรควรจะเข้าแค่ไหนเก็บ sltp อย่างไรในรูปแบบลักษณะนี้เก็บได้กี่จุดมันต้องมีการทำสถิติบันทึกการเทรดครับ
Position Trading ลงทุนระยะสั้นหรือระยะยาวอันไหนดีกว่ากันPosition Trading ลงทุนระยะสั้นหรือระยะยาวอันไหนดีกว่ากัน
👰 กลับมาพบกันอีกเช่นเคยกับการเทรดวิเคราะห์กราฟและการแชร์เทคนิคคอลแจ่มๆที่ใช้ดีและบอกต่อ วันนี้แอดมาไขข้อข้องใจระหว่างเทรดสั้นกับเทรดยาว มันต่างกันยังไง แล้วอันไหนดีกว่ากัน มาครับ บทความนี้มีคำตอบ
การเทรดแบบ Position Trading คือการถือตำแหน่งในการเข้าออเดอร์ มีหลายแบบ แบบถือเป็นเดือนหรือปีในระยะยาว และ การถือออเดอร์แบบระยะสั้นๆเทรดแบบรายวัน ทั้งนี้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับสไตล์การลงทุน เป้าหมาย และความพร้อมของแต่ละคน ย้ำว่าแต่ะคนไม่เหมือนกันจริงๆ ข้อนี้สำคัญมาก ในการเลือกรูปแบบการเทรด
Position Trading มีไว้ใช้เพื่ออะไร?
1. เพื่อเป็นการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและทางเทคนิคด้วย Position Trade และการวิเคราะห์ทางเทคนิคช่วยในการจับจังหวะการเข้าออเดอร์และออกออเดอร์
2. Position Trade ให้ความสำคัญกับกรอบเวลาใหญ่ เช่น กราฟรายสัปดาห์ รายเดือน หรือรายไตรมาส เพื่อให้มองเห็นภาพรวมของราคาและแนวโน้มหลัก แต่ในปัจจุบันเราปรับแต่งให้ Position Trade มีทั้งแบบระยะยาว และแบบระยะสั้น เพื่อสร้างความหลากหลายและกลยุทธิ์ที่มากขึ้น นั่นเอง
3. เพื่อช่วยให้มีการบริหารความเสี่ยงและเงินทุนอย่างมีวินัย โดยเริ่มจากการกำหนดสัดส่วนเงินลงทุนที่เหมาะสมในแต่ละสินทรัพย์ และเพื่อป้องกันการขาดทุนที่เกินกว่าระดับที่ยอมรับได้ รวมถึงตั้งเป้าหมายที่จะทำกำไร
Position Trading มีเทคนิคการทำอย่างไรบ้าง
1.Trend Following
การตามติดแนวโน้มหลักของราคา โดยใช้วิธีการต่างๆ ในการระบุแนวโน้ม เช่น การวิเคราะห์ทิศทางของค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Averages) หรือ ADX เพื่อประเมินความแข็งแกร่งของแนวโน้ม
2. Breakout Trading
มุ่งเน้นการรอคอยจังหวะที่ราคาผ่านแนวต้านหรือแนวรับสำคัญ ซึ่งบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงของอุปสงค์อุปทานและการเริ่มต้นของแนวโน้มใหม่ ในกรอบเวลารายวันรายเดือนหรือรายสัปดาห์ เครื่องมือที่ใช้ร่วมกันทางเทคนิค เช่น Pivot Point
3. Value Investing
เป็นการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีมูลค่าต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงอย่างมีนัยสำคัญ เช่น การคำนวณมูลค่าปัจจุบันของกระแสเงินสดคิดลด (DCF) แล้วถือครองไปจนกว่าตลาดจะตระหนักถึงมูลค่าที่แท้จริงและราคาปรับตัวให้สะท้อนโอกาสในระยะยาว
สรุป: อันไหนดีกว่ากัน?
Position Trading เหมาะกับคนที่:
ไม่มีเวลาเทรดตลอดวัน
ชอบการลงทุนแบบเน้นความมั่นคง
สามารถรอผลตอบแทนในระยะยาวได้
ไม่ชอบความเสี่ยงสูง
การเทรดระยะสั้น เหมาะกับคนที่:
มีเวลาและความพร้อมในการติดตามตลาด
ชอบความท้าทายและรับความเสี่ยงได้
มีทักษะการวิเคราะห์ตลาดที่ดี
ต้องการทำกำไรในเวลาสั้น ๆ
👽👽👽เป็นอย่างไรกันบ้างครับ พยายามถามตัวเองให้ได้คำตอบก่อนว่าชอบเล่นแบบไหน แล้วเรามีความสามารถในการทำกำไรแบบไหนกนแน่ พร้อมมากน้อยเพียงใด ทีนี้ก็เทรดไม่ยากแล้วครับ และที่สำคัญต้องหมั่นฝึกฝนและทดสอบระบบเทรดและกลยุทธ์อย่างสม่ำเสมอนะ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดข้อผิดพลาดในการเทรดเสมอ แล้วเราจะเก่งและกำไรเรื่อยๆครับ
ฝึกอ่านกราฟกำหนดแผนรอกราฟวิ่งเข้ามาตามแผนวิ่งมาในแผนไหนกำหนดเงื่อนไขจุดเข้าซื้อตามแผนนั้น
ตัวนี้ก็ไม่มีอะไรมากย่อมาจากไทม์เฟรมที่วิเคราะห์ก่อนหน้ากรอบสีม่วงที่เราตีเอาไว้เราก็มาบีบหาจุดเข้าของเราซึ่งข้างในมันจะมีรูปแบบของเทรนไม่ว่าจะเป็น side way ขาลงขาขึ้นมันขึ้นอยู่ข้างในแต่ indicator มันจะบอกให้เราเทรดอย่างไรนั้นมันก็ขึ้นอยู่กับการคำนวณของ indicator นั้นๆซึ่งเราทุกคนจะเทรดได้ทั้ง 2 ทางไม่ว่าจะเป็นขาบายหรือเซลล์ได้หมดมันจะเป็นเงื่อนไขที่เรากำหนดขึ้นมาเองว่ามันควรจะต้องเข้าแบบไหน indicator มาในรูปแบบนี้เราควรจะต้องทำอย่างไรเราจะวิ่งสวนกันกับอินดิเคเตอร์ไหมเราจะไม่ไปตาม indicator ใช่หรือไม่ถ้าเราไม่ไปตามเพราะเราไม่ตามตลาดเราไม่ตามเจ้าตลาดบังคับให้เราไปเราจะโดนแบบไหนแล้วสิ่งที่เราได้จากการที่เราวิ่งสวนกับ indicator นั้นคืออะไรมีผลดีหรือผลเสียกว่ากันก็ต้องคำนวณคิดเอาเองบันทึกการเทรดเอาเองในแต่ละออเดอร์ต้องละเอียดมากๆลองฝึกดูลองเขียนดูแล้วกันครับไม่มีอะไรจะบอกแล้วแม้กระทั่งได้อยู่แค่นี้แหละ
Many Pro Indicator (MPI) - รายละเอียด💎Many Pro Indicator (MPI)
🔥เพียง 2490 บาท (ใช้ได้ตลอดชีพ)
🔥ใช้งานง่ายเข้าตามสัญญาณ Buy-Sell มาพร้อม Tp/Sl อัตโนมัติ และฟังก์ชันอื่นๆสำหรับช่วยในการเทรด
👨🏻💻มือใหม่หรือมือโปรก็ใช้งานได้
👉เป็นบัญชีธรรมดาสามารถใช้งานได้และใช้ฟังชันก์ได้ครบ
✅ติดตั้งและใช้งานผ่าน Tradingview เท่านั้น (Script-Invite) สามารถดูสัญญาณ buy-sell พร้อม Tp/Sl และอื่นๆ แล้วนำไปเทรดผ่าน Mt4 Mt5 Broker หรือ Platform ไหนก็ได้
❤️ดูตัวอย่างผลลัพธ์และตัวอย่างกราฟหน้าเพจได้เลย
📌หากสนใจคอมเม้น "ขอรายละเอียด" หรือ ติดต่อสั่งซื้อทางเพจได้ทันที พร้อมส่งรายละเอียดทั้งหมดให้พิจารณา
------------------------------------------
👉ฟังชันก์ทั้งหมดของอินดิเคเตอร์และคำอธิบาย :
🔗 www.facebook.com
------------------------------------------
⭐️เทรดได้ทั้งตามเทรนและสวนเทรน
🔥พร้อมบอกจุด TP/SL อัตโนมัติ
🔥จุดเข้าสวย-คมกริบ มีโอกาสกลับตัวเสมอ
✅มีการทดสอบมาแล้วแม่นยำสูงถึง 70-80%
------------------------------------------
⭐️ฟังชันก์เสริมที่มี
⚒คาดการณ์จุด Top-Bottom ของตลาดบ่งบอกการกลับตัว
⚒Market Structure (BOS/ChoCH)
⚒Supply-Demand Zone
⚒Order Block
⚒มีตัวบอก Trend ของตลาด
⚒กรอบราคา High/Low Channel สำหรับการเทรด Sideway
✅พร้อมระบบแจ้งเตือน Buy-Sell ไม่ต้องเฝ้ากราฟ
✅ปรับแต่งค่าต่างๆได้อย่างอิสระ เช่น TP/SL,สีของเส้นต่างๆ,เปิดปิดสัญญาณต่างๆอย่างอิสระ
------------------------------------------
✅สัญญาณไม่มี repaint ใช้ข้อมูลกราฟปัจจุบัน
✅สัญญาณไม่หาย ไม่มีสัญญาณเกิดย้อนหลัง ตามกราฟจริง 100%
👉เล่นได้ตลอดทั้งวัน ไม่จำเป็นต้องถือยาว Daytrade ได้
👉ใช้งานได้ทุกไทม์เฟรม ทุกตลาด ทุกคู่เหรียญ
👉มีแจ้งเตือนสัญญาณ Buy-Sell แบบ 2 In 1 ตั้งทีเดียวจบ
------------------------------------------
✅พร้อมคู่มือการใช้งานอินดิเคเตอร์อย่างละเอียด
✅ซื้อครั้งเดียวใช้งานตลอดชีพ ไม่ต่ออายุ
✅สามารถใช้ได้ทั้งคอมพิวเตอร์ มือถือ ผ่าน Tradingview
✅การติดตั้งผ่าน Script-Invited (กุญแจล็อก) > เพียงส่ง Username ของ Tradingview ให้เรา ทีมงานจะทำงานติดตั้งให้เรียบร้อยโดยที่ลูกค้าไม่ต้องทำการใดๆเลย อินดิเคเตอร์จะเข้าในบัญชีอัตโนมัติ รอเปิดใช้อินดิเคเตอร์อย่างเดียว
✅พร้อมมีการอัพเดท Indicator อย่างสม่ำเสมอเพื่อให้เข้ากับผู้ใช้งานมากขึ้น
------------------------------------------
💎ตัวอย่างกราฟ Many Pro Indicator (MPI)
✅สัญญาณไม่มี repaint ใช้ข้อมูลกราฟปัจจุบัน
✅สัญญาณไม่หาย ไม่มีสัญญาณเกิดย้อนหลัง ตามกราฟจริง 100%
👉ถ้าเป็น forex แนะนำที่ไทม์เฟรม 1/5/15 นาที
👉ถ้าเป็น crypto จะใช้ไทม์เฟรม 15/60 นาทีครับ
⭐️ความถี่ในการเกิดสัญญาณ
-ไทม์เฟรม 1 นาที 20-40 Signal/วัน (เทรดได้ทั้งวัน)
-ไทม์เฟรม 5 นาที 5-10 Signal/วัน
-ไทม์เฟรม 15 นาที 1-3 Signal/วัน
❗️สัญญาณแม่นที่สุดในไทม์เฟรม 15 นาที
------------------------------------------
⚒ตัวอย่างอินดิเคเตอร์ MPI เมื่อเปิดใช้ในไทม์เฟรมต่างๆ
TF : 1 นาที
🔗 www.facebook.com
TF : 5 นาที
🔗 www.facebook.com
TF : 15 นาที
🔗 www.facebook.com
TF : 30 นาที
🔗 www.facebook.com
TF : 60 นาที
🔗 www.facebook.com
👉ดูตัวอย่างเพิ่มเติมหน้าเพจได้เลยครับ
✅สรุปผลลัพธ์อินดิเคเตอร์ทุกวันหน้าเพจ
------------------------------------------
🖥ตัวอย่างผลลัพธ์อินดิเคเตอร์ MPI ในแต่ละวัน/การใช้งานจริง
👀ตัวอย่าง MPI Version ล่าสุด
🔗 www.facebook.com
🔗 www.facebook.com
🔗 www.facebook.com
🔗 www.facebook.com
📍ตัวอย่างเพิ่มเติม
🔗 www.facebook.com
------------------------------------------
⚡️เมื่อซื้ออินดิเคเตอร์ Many Pro Indicator (MPI)⚡️
❗️โปรลับสุดคุ้ม❗️
🔥ตอนนี้มีโปร 1990 บาท สำหรับ 1 User ใช้งานถาวรไม่ต้องต่ออายุ (จากปกติ 2490 บาท)
------------------------------------------
👋❗️โปรชวนเพื่อน❗️👋
❤️โปรแพ็คคู่สำหรับ 2 User ในราคา 2990 บาท (จากปกติ 3990 บาท) หารคนละ 1495 บาทเท่านั้น
✔️โปรแลกซื้อ 3 จ่าย 2 คนเพียง 3990 บาท (จากปกติ 5990 บาท) ได้สิทธิรับอินดิเคเตอร์ 3 User หารคนละ 1330 บาทเท่านั้น
📌หมายเหตุ : โปรโมชั่นนี้ไม่ใช้ร่วมกับโปรโมชั่นแถมหนังสือและส่วนลดอื่นๆ
🔗 www.facebook.com
------------------------------------------
📕หากอยากดูรายละเอียดของอินดิเคเตอร์ทั้งหมดอยู่ในคู่มือนี้ลองอ่านดูได้เลยครับ :
🔗 www.facebook.com
------------------------------------------
👉รีวิวจากลูกค้าที่ใช้ Indicator ของเรา
🔗 www.facebook.com
------------------------------------------
👉บัญชีธรรมดาก็ใช้ได้ตลอดชีพ
⚡️เพียง 2490 บาทจ่ายครั้งเดียวใช้งานตลอดชีพ
📌หากสนใจคอมเม้น "ขอรายละเอียด" หรือ ติดต่อสั่งซื้อทางเพจได้ทันที
พร้อมส่งรายละเอียดทั้งหมดให้พิจารณาครับ
ฝึกอ่านกราฟตัวนี้ก็เห็นตามภาพนี้เลยครับอันนี้มันคือทำเฟรมที่ใหญ่เดี๋ยวเราก็ต้องย่อจากที่เราทำกรอบพวกนี้เอาไว้ไปหาจุดเช่าที่เล็กลงอย่างที่เห็นนี่แหละครับภาพมันเป็นอย่างนี้แหละแต่คำถามคือกว่ามันจะมาถึงแต่ละจุดนั้นมันก็นานมากเพราะ 1 แท่งมันก็คือ 1 เดือนฉะนั้นการที่เราวางแผนอันนี้เอาไว้เนี่ยมันนานมากจริงๆมันไม่ใช่ณเวลานี้หรอกแต่ถ้าเราอยากจะหาจุดเช่าเราก็ต้องบีบกรอบลงไปซึ่งกรอบที่เราควรจะเทรดนั่นก็คือกรอบสีน้ำเงินซึ่งมีระยะอยู่ประมาณ 2,100 จุดโดยเฉลี่ยแล้วก็จะเอาตรงนี้มาหาจุดเช่าโดยการย่อเข้าไปดูข้างในว่าเขาทำพฤติกรรมอย่างไรแล้วเราจะใช้อินดิเคเตอร์ไหมถ้าจะใช้ใช้แบบไหนมันมีวิธีการใช้งานอย่างไรแล้วเราจะต้องมองฝั่งตรงข้ามกับวิธีการใช้ของมันเพราะว่าวิธีการใช้ที่เขาบังคับให้ใช้นั้นคือการที่เจ้าตลาดเขาบังคับให้เราเข้าตามอินดิเคเตอร์เพราะฉะนั้นคุณก็จะโดนเจ้าตลาดให้คุณเป็นคนที่เข้าซื้อหลังจากนั้นเขาก็จะหาจังหวะที่กินรวบคุณให้ขาดทุนไม่ว่าจะเป็นทั้งขาขึ้นแล้วก็ขาลงจะโดนหมดเพราะฉะนั้นสิ่งที่มันจะเกิดขึ้นได้ณขณะนี้ก็คือการสร้างรูปแบบแพทเทิร์นในการเก็บเงินของเราว่าเราเคยเก็บเงินได้แบบไหนจากอินดิเคเตอร์อะไรที่เราเคยใช้และเราไม่เข้าใจเราเข้าไปเรียนแบบไหนครับเกจิอาจารย์แบบไหนท่านไหนที่เขาสอนมาให้ใช้แบบไหนเอามาลองดูแล้วเอามาลองทดลองใช้ถ้าใช้แล้วมันใช้ได้ปรับเปลี่ยนกับวิธีการของเราได้ไหมถ้าใช้ได้ค่อยๆปรับไปอะไรที่ไม่สำคัญเอาออกตัดออกให้เหลืออยู่ไม่กี่อย่างที่เราใช้รูปแบบเดิมๆมันจะทำเงินได้ต้องลองฝึกดูและสังเกตดูเรื่อยๆบันทึกการเทรดสำคัญมากต้องบันทึกจริงๆหน้าตาบันทึกการเทรดเป็นอย่างไรไปหาดูตัวอย่างแล้วก็เอามาทำเป็นในบันทึกของตัวเราที่เราเข้าใจลองดูครับ
ฝึกวิเคราะห์เพื่อหาจุดเข้าซื้อให้ละเอียดและแม่นยำยิ่งๆขึ้นไปวันนี้ลองมองภาพแล้วก็เลยลองขีดๆเขียนๆดูลองทดลองใช้ indicator ตามที่โปรแกรมเขาเซ็ตไว้ให้เลยfiboที่ใช้งานมันมีอยู่แล้ว
Fib retracement แบบอัตโนมัติ
พอลองใส่เข้าไปสุดท้ายมันก็ตั้งค่าให้เราเลยไม่ต้องไปตีเองเลยก็ดีเหมือนกันส่วนเส้นสีแดงก็คือ moving average ค่ามาตรฐานเลยก็มองตามภาพที่เห็นนั่นแหละครับลองอ่านทำความเข้าใจดูครับ
แต่ถ้ามองแบบกราฟเปล่ามุมมองมันก็จะยังขัดแย้งกันกับอินดิเคเตอร์บ้างสรุปมันก็คือภาพจำที่เราเคยทำได้กับ indicator สัมพันธ์กันกับรูปแบบของแท่งเทียนหรือไม่และเป็นรูปแบบที่เราทำได้ประจำไหมแค่นั้นเองสรุปก็คือการเทรดขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่เราตั้งขึ้นมาลองทำดูแล้วกันครับส่วนปัจจุบันตอนนี้กราฟวิ่งลักษณะอย่างนี้ก็เป็นการบีบราคาให้ออเดอร์บายและเซลล์ที่แคบลงเรื่อยๆเราก็ไม่ควรเข้าก็แค่นั้นเอง
แต่ถ้าจะเข้ามันก็มีเงื่อนไขของมันอีกซึ่งเราก็ต้องไปเจาะลึกของมันอีกว่าในทางเฟรมที่เล็กๆน่ะมันมีอะไรให้เราเข้าได้บ้างแล้วเราจะยึดเหนี่ยวด้วย ทำเฟรมที่ใหญ่ๆเอามาอ้างอิงอะไรในทางเฟรมที่เล็กๆพอคลิ๊คอะไรบ้างไหมครับมันต้องลองจินตนาการดู
การบริหารเงินในการเทรดแบบ Fixed Percentageความหมายของ Fixed Percentage
Fixed Percentage เป็นกลยุทธ์บริหารเงินที่ใช้ในการเทรด โดยกำหนดให้ขนาดของการลงทุนแต่ละครั้งเป็นเปอร์เซ็นต์คงที่ของทุนทั้งหมดที่มีอยู่ วิธีนี้ช่วยลดความเสี่ยงและช่วยให้พอร์ตการลงทุนเติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาว
หลักการของ Fixed Percentage
หลักการของกลยุทธ์นี้คือการกำหนดขนาดของการเทรดเป็นเปอร์เซ็นต์ของเงินทุนที่มีอยู่ ตัวอย่างเช่น หากกำหนดให้ความเสี่ยงต่อการเทรดอยู่ที่ 2% ของพอร์ตและพอร์ตมีเงินทุน 100,000 บาท ขนาดของความเสี่ยงในการเทรดแต่ละครั้งจะเท่ากับ 2,000 บาท
ข้อดีของ Fixed Percentage
-ควบคุมความเสี่ยงได้ดี – การจำกัดความเสี่ยงต่อการเทรดช่วยให้พอร์ตการลงทุนสามารถอยู่รอดในตลาดได้ แม้ในช่วงที่ขาดทุนต่อเนื่อง
-เพิ่มโอกาสการเติบโตของพอร์ต – เมื่อพอร์ตเติบโตขึ้น ขนาดของการเทรดก็เพิ่มขึ้นโดยอัตโนมัติ ทำให้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้นในระยะยาว
-ลดผลกระทบจากอารมณ์ – การใช้ระบบ Fixed Percentage ทำให้นักเทรดมีระเบียบวินัยมากขึ้นและลดการตัดสินใจที่เกิดจากอารมณ์
วิธีคำนวณขนาดการเทรด
สูตรคำนวณขนาดการเทรดแบบ Fixed Percentage:
ตัวอย่าง:
เงินทุนเริ่มต้น = 100,000 บาท
กำหนดความเสี่ยงต่อการเทรด = 2%
Risk Amount = 100,000 \times 2% = 2,000 บาท
หากจุด Stop Loss อยู่ที่ 50 จุด ขนาดล็อตจะเป็น 2,000 / 50 = 40 บาทต่อจุด หรือใช้ Lot Size ตามคู่เงินที่เทรด
ข้อควรระวัง
ไม่ควรเพิ่มเปอร์เซ็นต์ความเสี่ยงมากเกินไป – แม้ว่าการเพิ่มความเสี่ยงจะช่วยให้พอร์ตเติบโตเร็วขึ้น แต่ก็เพิ่มความเสี่ยงในการล้างพอร์ตด้วย
ควรปรับตามความผันผวนของตลาด – หากตลาดมีความผันผวนสูง อาจต้องลดขนาดของการเทรดเพื่อป้องกันการขาดทุนที่รุนแรง
ไม่ควรใช้ Fixed Percentage แบบคงที่ตลอดเวลา – ควรมีการปรับเปอร์เซ็นต์ความเสี่ยงตามสถานการณ์ เช่น ลดเปอร์เซ็นต์ในช่วง Drawdown และเพิ่มในช่วงที่ระบบเทรดมีผลลัพธ์ที่ดี
สรุป
Fixed Percentage เป็นหนึ่งในกลยุทธ์บริหารเงินที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย เนื่องจากช่วยควบคุมความเสี่ยงและทำให้พอร์ตเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว การเลือกเปอร์เซ็นต์ความเสี่ยงที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ เพราะหากกำหนดต่ำเกินไป อาจทำให้พอร์ตเติบโตช้า แต่หากกำหนดสูงเกินไป อาจทำให้พอร์ตถูกล้างได้ง่าย นักเทรดจึงควรนำไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับสไตล์การเทรดและสภาวะตลาด
อาจเป็นกรณีศึกษาที่ดีของ selling climax & accumulation นี่เป็นหลักทรัพย์อ้างอิงของ Novob80 ซึ่งเป็น DR ของกระดานหุ้นไทย เอาไว้ใช้เรียนรู้เรื่อง accumulation ตามหลัก Wyckoff
นั่นคือถ้ามองว่าแท่งแดงยาวล่าสุดเป็น Selling climax แล้วจากนั้นราคาย่ำฐาน ออกข้างเพื่อซับแรงขาย สิ่งที่คาดหวังจะให้เกิดขึ้นหลังจากนี้คือ sign of strength อันเป็นแท่งเขียวยาวพร้อมกับปริมาณการซื้อขายที่สูงกว่าช่วงซับแรงขาย
ฝึกวิเคราะห์เพื่อหาจุดเข้าซื้อให้ละเอียดและแม่นยำยิ่งๆขึ้นไปภาพนี้ก็เช่นกันถ้าเกิดมีคนมาเปิดเจอจะงงว่าอ้าวมาจากไหนคืออะไรถ้าไม่เข้าใจต้องย้อนกลับไปดูนะครับผมวิเคราะห์ไว้ 3 ทางเฟรมถ้าเกิดว่ามาดูh 1 เลยไม่เข้าใจหรอกภาพที่เห็นจากหน้ากราฟเลยก็ตามนี้เลยครับไม่มีอะไรมากกว่านี้แล้วที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับตัวเองแล้ว
สังเกตุอะไรไหมเขาจะพยายามทำให้เราได้ไม้BUY SELLที่แย่ลงทุกที
ฉะนั้นจะBUY หรือ SELL ต้องเกิดรูปแบบอะไรก่อนค่อยเข้าแล้วรูปแบบ แบบไหน
ตอบเลยไม่รู้ มันคือรูปแบบของคุณทุกคนเป็นคนคิดเอง
ฝึกวิเคราะห์เพื่อหาจุดเข้าซื้อให้ละเอียดและแม่นยำยิ่งๆขึ้นไปภาพนี้ก็ไม่มีอะไรมากย่อจากtfที่วิเคราะห์ก่อนหน้าแล้วชี้แจงภาพให้กระจ่างแค่นั้นเองตามนั้นล่ะครับลองดูก่อนแล้วเราก็ไปย่อดูข้างในอีกแค่นั้นเองแล้วไอ้รูปแบบของเรานั่นแหละมันคือสิ่งที่เราจะต้องเอามาทำต่อจะเทรดในแบบทำเฟรม day h4 h1 m30 m15 m5 m1 นั่นก็แล้วแต่รูปแบบที่ตัวเองทำได้ indicator ที่ตัวเองใช้บ่อยๆแล้วมีการทดสอบมาแล้วน่าใช่นั่นแหละฝึกต่อไปเลยครับ
ฝึกวิเคราะห์เพื่อหาจุดเข้าซื้อให้ละเอียดและแม่นยำยิ่งๆขึ้นไปทดลองฉีดๆเขียนๆดูจากภาพที่เห็นด้วยครับเปล่าในทำเฟรมที่ใหญ่สร้างกรอบเพื่อหาจุดเช่าซื้อในทางเฟรมที่เล็กลงณขณะนี้ในทามเฟรมที่ใหญ่ภาพที่เห็นเห็นประมาณนี้ข้างในก็จะมีการวิ่งขึ้นวิ่งลง side way side way ลง side way ขึ้นค่อยๆไดร์ไต่ขึ้นจนตอนนี้ขึ้นไปสูงสุดแล้วก็วิ่งลงมามีการถอดไส้เล็กน้อยลักษณะแบบนี้ข้างในก็คงจะมีโอกาสเทรดได้ทั้ง 2 ทางเพราะฉะนั้นสิ่งที่ทำได้ณตอนนี้ก็คือการสร้างภาพรวมใหญ่เสร็จเรียบร้อยก็ย่อไปหาภาพรวมเล็กและหาจุดเช่าซื้อตามเงื่อนไขของแต่ละทางเฟรมแต่หัวใจหลักทำเฟรมใหญ่ยังเป็นจุดที่แข็งแรงนั่นคือแนวโน้มขาคลื่นยังแข็งแรงอยู่การย่อแล้วบายยังแข็งแรงอยู่แต่การ sale ก็สามารถลงได้ 3-4,000 จุดได้เช่นกันเพราะฉะนั้น indicator หรืออะไรก็ตามหรือรูปแบบของอีเรียดเว็บรูปแบบของครับเปล่า break out แท่งเทียนต่างๆมันมีรูปแบบที่วิเคราะห์คล้ายคลึงกันแต่จุดเข้าซื้อมันไม่ใช่จุดเดียวกันเสมอเพราะมุมมองของแต่ละคนย่อมมีมุมมองการเข้าซื้อที่แตกต่างกันอยู่แล้วการร่ำเรียนต่างๆจากเกจิอาจารย์นั้นเป็นการนำแนวทางเพื่อมาพัฒนาปรับปรุงให้ได้รูปแบบของเราซึ่งจะทำตามเกจิอาจารย์ได้ตามค่าเฉลี่ย 100 คนอาจจะทำได้แค่ 10 คนที่เหลือทำไม่ได้มันเป็นค่าเฉลี่ยโดยทั่วไปอยู่แล้วฉะนั้นจับหลักอะไรขึ้นมาสัก 1 อย่างแล้วทำมันซ้ำๆบันทึกการเทรดทุกครั้งว่าเข้าเพราะอะไรด้วยเหตุด้วยผลอะไร order นี้เข้าแล้วชนะเพราะอะไรที่เราคิดเอาไว้แพ้เพราะอะไรแล้วควรจะต้องแก้ไขอะไรยังไงควรจะต้องมี PA แท่งเทียนแบบไหนทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวเรา
ฝึกวิเคราะห์เพื่อหาจุดเข้าซื้อให้ละเอียดและแม่นยำยิ่งๆขึ้นไปตัวนี้ก็ไม่มีอะไรมากย่อจากทางเฟรมที่วิเคราะห์ทำเฟรมใหญ่เมื่อสักครู่นี้ย่อลงมาให้เล็กลงแล้วก็มาหาไส้ในมันว่าจะเข้าเทรดอย่างไรเรื่องรูปแบบภาพใหญ่เขาบอกขึ้นแต่พอมาภาพเล็กเราเห็นเลยว่ามันคือการวิ่งแบบ side way ที่ค่อยๆยกตัวขึ้นฉะนั้นเราสามารถเทรดได้ทั้ง 2 ทางเลยเหมือนกันแต่อย่างที่ว่าแหละครับ indicator บอกมาอย่างไรเราก็ต้องมองตามแผนเงื่อนไขที่เขาเคยกำหนดไว้ให้เราเทรดซึ่งบางคนมันอาจจะมองแค่ว่ามันมีโอกาสจะลงเราก็ต้องรอจังหวะเซลล์แต่บางคนบอกว่าจังหวะนี้มันกำลังจะขึ้นก็ต้องมองรอจังหวะที่มันจะขึ้นตามรูปแบบที่ตัวเองเคยฝึกมาร่ำเรียนมาจากเกจิอาจารย์ต่างๆที่สามารถเคยสอนแล้วก็จะประสบการณ์จากเทคนิคอะไรต่างๆของตัวเองก็พอผสมผสานกันจดบันทึกการเทรดเสมอว่ารูปแบบแบบไหนที่เราควรจะเข้าเข้าได้กี่ไม้mmแบบไหนรูปแบบแบบนี้ยิ่งยกยิ่งเซลล์ยิ่งย่อยิ่ง by ซึ่งทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับรูปแบบของตัวเองทั้งนั้นครับลองสังเกตดูครับผม
ฝึกวิเคราะห์เพื่อหาจุดเข้าซื้อให้ละเอียดและแม่นยำยิ่งๆขึ้นไปกำหนดแผนตามภาพเลยครับที่เห็นมีแบบนี้แหละแล้วเราจะเทรดอย่างไรดีล่ะซึ่งรูปแบบการเทรดมีมากมายหลากหลายวิธีการบางคนรอบายบางคนรอเซลล์มันแล้วแต่วิธีการเลยครับซึ่งจะไปก็ได้ก็คือรอย่อและบายส่วนคนคนที่มองอีกหน้านึงก็รอยกแล้วเซลล์ไปถึงแนวรับก็รอเตรียมใบแล้วแนวรับมันจะทะลุไหมก็ต้องมีเหตุผลอื่นๆรองรับเพิ่มเติม
หลังจากที่เราได้ภาพรวมใหญ่แล้วก็ไปเริ่มหาจุดเข้าในทางเป็นที่เล็กลงซึ่งก็จะต้องมีรูปแบบต่างๆที่ตนเองได้ศึกษารับเรียนหรือว่าศึกษาด้วยตนเองมาด้วยเหตุและผลปัจจัยอะไรที่ตัวเองได้ให้เห็นและผลมันขึ้นมา
ฝึกอ่านกราฟผมย่อจากทาง h4 ลงมา m15 ก็อยากให้เห็นมันคือ side way กรอบใหญ่แล้วก็ side way กรอบเล็กฉะนั้นถ้าจะเทรดใน sideway กรอบเล็กก็ต้องเทรดในรูปแบบของ side way กรอบเล็กแต่ถ้าจะเทรดในรูปแบบของ side way กรอบใหญ่ก็ต้องรอและต้องมีสัญญาณ price actionอะไรต่างๆเข้ามาผสมผสานกันต้องรอสัญญาณจากอินทิเกเตอร์รูปแบบการสร้างเงื่อนไขที่เราจะเข้าออเดอร์ว่าต้องเป็นแบบไหนควรถึงจะเข้าออเดอร์นั่นแหละครับสิ่งที่เราจะต้องสังเกตเสมอและทำซ้ำบ่อยๆ
ปล.ขอเล่าเมื่อวานนี้ลองทดสอบ เดโม่BTCผลโดนลากจน ล้างพอร์ตขนาดว่าเราวางแผนไว้ดีแล้วยังโดนเลย
ฝึกอ่านกราฟกำหนดแผนเอาไว้ข่าวจะมาไม่มาก็ช่างหัวมัน แผนของเราคืออะไรก็มองแผนของเราเอาไว้จุด SL ของเราอยู่ประมาณไหนก็ต้องกำหนดเอาไว้จุดเข้าของเราจะเป็นรูปแบบเดิมไงหน้าตาอย่างไรก็ต้องวางแผนเอาไว้ indicator ที่มันจะเข้ามาใช้เนี่ยจะต้องมีการอ้างอิงด้วยเหตุด้วยผลอะไรที่จะเข้าออเดอร์จะเข้าตามที่เขาสอนให้เข้าเลยหรือว่าจะเข้าตามรูปแบบของเราถ้าเข้าตามรูปแบบที่เขาให้เข้าก็คือเราก็โดนกับดักที่เขาซ่อนเอาไว้มันก็เป็นเรื่องปกติอาจจะแพ้ก็ได้หรืออาจจะชนะก็ได้แต่ก็ไม่ได้ว่าจะชนะบ่อย 10 ครั้งอาจจะชนะสัก 5 ครั้งก็เป็นความคุ้นเคยภาพจำของเราอาจจะเป็นภาพจำที่เราจำคิดว่ามันจะเป็นสิ่งที่ได้เงินแต่จริงๆแล้วอาจจะเป็นกับดักที่เขาหลอกให้เราจำภาพนั้นก็ได้ทุกสิ่งมันจะต้องวางแผนด้วยตัวเองทั้งหมดเลยเดี๋ยวหลังจากนี้เราจะลองย่อหาจุดเข้าที่เล็กลงอีกครั้งนึงครับจากภาพเดิมนี่แหละครับ
วิธีใช้ Sentiment Indicator อารมณ์ในตลาด วิธีใช้ Sentiment Indicator อารมณ์ในตลาด
👰กลับมาพบกันอีกเช่นเคยกับการเทรดวิเคราะห์กราฟและการแชร์เทคนิคคอลแจ่มๆที่ใช้ดีและบอกต่อ วันนี้แอดมาไขข้อข้องใจเกี่ยวกับอารมณ์การเทรดในตลาด อารมณ์ที่เป็นอารมณ์ร่วมจริงๆนะ เอ๊ะแล้วมันดียังไง มันเริ่มจากตรงไหน มาครับ บทความนี้มีคำตอบ
หลังจากที่เราๆเทรดเดอร์มือใหม่ทั้งหลายเริ่มเข้าสู่วงการเทรดแบบเต็มตัวแล้ว หลายๆคนน่าจะเริ่มรู้จัก รูปแบบในการวิเคราะห์ข้อมูลของตลาดมาบ้าง ไม่มากก็น้อย แต่ที่งงๆเยอะหน่อย น่าจะเป็นอารมณ์ในตลาด Sentimental Analysis หรือความอ่อนไหวของตลาดว่ามันคืออะไร ทำไมขึ้นๆลงๆ เดาทางไม่ถูกเลย
Market Sentiment คืออะไร
Sentiment หมายถึงแนวทางความคิด และความรู้สึกของนักลงทุนในตลาด ซึ่งมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อหรือขายสินทรัพย์ทางการเงิน โดยใช้ความรู้สึกหรืออารมณ์โดยรวมที่นักลงทุนและเทรดเดอร์มีต่อตลาดนั้น ๆ ซึ่งในแต่ละตลาดการลงทุนก็จะมีมุมมองที่แตกต่างออกไป
Market Sentiment แบ่งมุมมองของตลาดออกเป็น 3 เทรนด์
1. ตลาดอยู่ในสภาวะขาขึ้น (Uptrend)
2. ตลาดอยู่ในสภาวะขาลง (Downtrend)
3. ตลาดยังหาทิศทางไม่ได้ (Sideway)
การวิเคราะห์อารมณ์ของตลาด (Sentiment Analysis) คืออะไร?
ระบบเทรด Sentiment Analysis (การวิเคราะห์ความรู้สึก) เป็นระบบที่อาศัยการประเมินความรู้สึกหรืออารมณ์ของตลาดจากแหล่งข้อมูลต่างๆ
เช่น ข่าวสาร, โซเชียลมีเดีย, ฟอรัม, หรือความคิดเห็นของผู้คน เพื่อทำนายทิศทางราคาของสินทรัพย์ (เช่น หุ้น, สกุลเงิน, หรือคริปโตเคอร์เรนซี)
โดยหากข้อมูลข่าวสารในตลาดส่อแววเป็นปัจจัยบวก (Positive Sentiment)
ก็ถือเป็นสัญญาณขาขึ้น ให้ BUY
ในขณะเดียวกัน หากมีข่าวสารที่เป็นปัจจัยลบ (Negative Sentiment)
ก็จะถือเป็นสัญญาณขาลงนั่นเอง ให้ SELL
อย่างไรก็ตาม บางครั้งข้อมูลที่ถูกรวบรวมมาก็อาจไม่ได้บอกสัญญาณเทรดที่ถูกต้องเสมอไป เทรดเดอร์ก็ควรพิจารณาข้อมูลข่าวสารทางการเงินทั้งที่เป็นปัจจัยบวกและลบร่วมด้วยในระหว่างการเทรด ซึ่งมีโอกาสสูงที่ข้อมูลเหล่านั้นจะส่งผลต่อราคาสินทรัพย์ที่เรากำลังเทรดอยู่ แต่หากรารู้จักใช้ sentiment indicator ให้เป็นประโยชน์ ก็หมดห่วงได้เลย! มันจะช่วยให้เราตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
อินดิเคเตอร์ Sentiment กำลังบอกอะไร?
การตีความหมายของ sentiment indicator !
1. การอ่านตัวชี้วัดตามตัวเลขจริง (เหมาะสำหรับเทรดระยะยาว)
- หากตัวเลขอยู่ในระดับสูงๆ หมายความว่าผู้บริโภคกำลังมองตลาดอยู่ในเกณฑ์บวก และเราก็เดิมพันในทิศทางตลาดตามความเป็นจริง โดยมองฝั่ง BUY และคิดว่าราคาจะขึ้นไปอีกเรื่อยๆ
- หากตัวเลขดังกล่าวอยู่ในระดับต่ำๆ หมายความว่าผู้บริโภคกำลังได้รับแรงกดดันจากสภาวะเชิงลบของตลาด ซึ่งอาจส่งผลให้ตลาดมีการปรับตัวลงไปอีก โดยมองฝั่ง SELL
2. การอ่านตัวชี้วัดแล้วมองในทิศทางตรงกันข้าม(เหมาะสำหรับเทรดระยะสั้น)
- หากตัวเลขอยู่ในระดับต่ำๆ หมายความว่าผู้บริโภคกำลังได้รับแรงกดดันจากสภาวะเชิงลบของตลาด ซึ่งอาจส่งผลให้ตลาดมีการปรับตัวบวก และราคาก็อาจกลับตัวขึ้นหลังจากนั้น
- ในขณะเดียวกัน หากอินดิเคเตอร์ดังกล่าวอยู่ในระดับสูงๆ ก็หมายความว่าผู้บริโภคกำลังมองตลาดอยู่ในเกณฑ์บวก ซึ่งเทรดเดอร์มืออาชีพโดยส่วนใหญ่จะมองว่า indicator นั้นอาจปรับตัวลงพร้อมๆ กับตลาดในไม่ช้า
อินดิเคเตอร์ Sentiment ของตลาด vs. อินดิเคเตอร์เชิงเทคนิค
Indicator บางตัวอาจใช้วิเคราะห์ได้ทั้งในเชิงเทคนิคและสภาวะอารมณ์ของตลาด อย่างไรก็ตาม อินดิเคเตอร์ทั้ง 2 ประเภทก็ยังมีความแตกต่างกันอยู่บ้าง ดังนี้:
1. อินดิเคเตอร์ Sentiment ใช้บอกพฤติกรรมของทั้งผู้บริโภคและนักลงทุน รวมถึงอารมณ์ความรู้สึกของบุคคลที่เกี่ยวข้องในตลาดดังกล่าว
2.อินดิเคเตอร์เชิงเทคนิค บ่งบอกภาพรวมของตลาด ไม่ว่าจะเป็นราคา (Price), ปริมาณการซื้อขาย (Volume), และข้อมูลอื่นๆ ในเชิงเทคนิคที่ปรากฎใน กราฟเทรด
👽👽👽เป็นอย่างไรกันบ้างครับ จริงๆแล้วมันก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไรขนาดนั้น ถ้าเราอ่านแบบง่ายๆเข้าใจง่ายๆ ทุกอย่างจะดูง่ายเอง แค่อย่าไปคิดเยอะครับ ไม่ต้องไปคิดแทนเขา เราคิดแค่ว่ามันบอกขึ้นลง แค่นั้นก็พอ เห็นมั้ยครับ ง่ายนิดเดียว และที่สำคัญต้องหมั่นฝึกฝนและทดสอบระบบเทรดและกลยุทธ์อย่างสม่ำเสมอนะ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดข้อผิดพลาดในการเทรดเสมอ แล้วเราจะเก่งและกำไรเรื่อยๆครับ